📰 เจาะลึก Call of Duty: Black Ops 7 บน PS5: สงครามยุคใหม่กับจุดเด่นที่พลาดไม่ได้

Call of Duty: Black Ops 7 เป็นชื่อที่แฟน ๆ ทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ การกลับมาของซีรีส์สายลับ สงครามจิตวิทยา และการเคลื่อนไหวสุดล้ำบนเครื่อง PlayStation 5 ได้รับการอัปเดตและพัฒนาครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการนำเสนอประสบการณ์ที่เชื่อมโยงและหลากหลายมากขึ้น

1. ภารกิจลับที่เล่นได้ถึง 4 คน: Co-Op Campaign ครั้งประวัติศาสตร์

จุดเด่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือการที่โหมดแคมเปญหลัก (Campaign) ของ Black Ops 7 จะ รองรับการเล่นแบบ Co-Op ได้สูงสุดถึง 4 คน นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของซีรีส์ Black Ops ที่ผู้เล่นสามารถสัมผัสเรื่องราวสุดเข้มข้นพร้อมกับเพื่อนได้

• เนื้อเรื่องและฉากหลัง: เนื้อหามีการคาดการณ์ว่าจะเกี่ยวข้องกับ ยุคสงครามอ่าว (Gulf War) ซึ่งนำเสนอภาพความขัดแย้งทางการเมืองและปฏิบัติการจารกรรมในยุค 1990s หรืออาจเป็นเนื้อเรื่องที่สานต่อจากเหตุการณ์ใน Black Ops II (ปี 2035) ที่นำเสนอเรื่องราวของเทคโนโลยีอันตรายและการทรยศหักหลัง

• Gameplay แนวใหม่: การออกแบบฉากและภารกิจได้ถูกปรับปรุงให้รองรับการเล่นหลายคน โดยเน้นการ วางแผนกลยุทธ์ และการ แบ่งบทบาท ในทีมมากขึ้น ทำให้แต่ละภารกิจมีอิสระในการเข้าถึงเป้าหมายและวิธีแก้ไขปัญหาที่หลากหลายกว่าเดิม

ไฮไลท์: การเล่น Co-Op Campaign ไม่ใช่แค่การเล่นคนเดียวแบบมีเพื่อนมาช่วยยิง แต่เป็นการออกแบบที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คในการไขปริศนาและทำภารกิจลับให้สำเร็จ

2. ระบบ "Omnimovement" และความเร็วในการต่อสู้ที่เหนือกว่า

ในด้าน Multiplayer เกมเพลย์ถูกยกระดับขึ้นด้วยระบบการเคลื่อนไหวใหม่ที่ถูกเรียกว่า Omnimovement ซึ่งมุ่งเน้นความคล่องตัวและความลื่นไหลในการต่อสู้ระดับสูง

• Wall Jumping: ความสามารถในการ กระโดดไต่กำแพง หรือ Wall Running ได้ถูกนำกลับมาหรือพัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนที่ในแนวตั้งและใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมได้มากขึ้นอย่างมาก สร้างมิติใหม่ในการเข้าปะทะและหลบหนี

• Fluidity ในทุกท่วงท่า: ผู้เล่นสามารถทำการ เล็งปืน (ADS), สไลด์, กระโดดพุ่ง (Dolphin Dive) หรือแม้กระทั่ง ดำน้ำ ขณะที่ยังคงความแม่นยำในการยิงได้ ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีจังหวะหยุดนิ่ง และต้องใช้ทักษะการควบคุมที่สูงขึ้น

• จำนวนแผนที่มากมาย: ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าจะมี 18 แผนที่ใหม่ พร้อมให้เล่นตั้งแต่วันเปิดตัว แบ่งเป็นแผนที่ขนาดเล็กสำหรับโหมด 6v6 ที่เน้นความรวดเร็ว และแผนที่ขนาดใหญ่ (Skirmish) สำหรับการต่อสู้ขนาดใหญ่ 20v20

3. การกลับมาของ Zombies แบบ "Round-Based" ดั้งเดิม

สำหรับแฟน ๆ โหมด Zombies ข่าวดีคือ Black Ops 7 จะกลับสู่รากฐานของซีรีส์ด้วยรูปแบบ Round-Based (เอาชีวิตรอดเป็นรอบ) ที่คลาสสิกและเป็นที่รัก

• เน้น Easter Eggs และความลึกลับ: โหมดนี้จะเน้นการไขปริศนา (Easter Eggs) และความลึกลับของเนื้อเรื่อง Dark Aether ตามแบบฉบับ Black Ops Zombies ดั้งเดิม

• ความท้าทายที่เพิ่มขึ้น: การออกแบบแผนที่และกลไกการเล่นจะถูกปรับให้เข้มข้นขึ้น มีความท้าทายในการบริหารทรัพยากร และการอัปเกรดอาวุธ (Pack-a-Punch) เพื่อรับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละรอบ

4. ระบบ Progression ที่เชื่อมโยง (Unified Progression)

Black Ops 7 ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการเล่น Call of Duty โดยมีระบบความก้าวหน้า (Progression) ที่เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์

• ทุกโหมดนับ: ไม่ว่าผู้เล่นจะใช้เวลาไปกับการเล่น Co-Op Campaign, Multiplayer, หรือ Zombies ทุก ๆ XP, ระดับอาวุธ, และ Battle Pass Tier จะถูกนับรวมและปลดล็อกข้ามโหมด

• เชื่อมต่อกับ Warzone: ความก้าวหน้าของอาวุธและไอเทมต่าง ๆ จะถูกโอนไปใช้ใน Call of Duty: Warzone™ ตั้งแต่ Season 01 เป็นต้นไป ทำให้การเล่นใน Black Ops 7 ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ Warzone ของคุณ

5. การวางจำหน่ายและแพลตฟอร์ม

• กำหนดการ: Call of Duty: Black Ops 7 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2025

• PS5 Advantage: ผู้เล่นบน PS5 จะได้รับประสบการณ์ที่ลื่นไหลด้วย Haptic Feedback และ Adaptive Triggers ของคอนโทรลเลอร์ DualSense ที่จะเพิ่มความสมจริงในการยิงปืนและการเคลื่อนไหว รวมถึงการโหลดฉากที่รวดเร็วด้วย SSD ของ PS5

Call of Duty: Black Ops 7 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาคต่อ แต่เป็นการยกเครื่องครั้งสำคัญที่นำเสนอคุณสมบัติใหม่ ๆ โดยเฉพาะ Co-Op Campaign และ Omnimovement ที่จะเปลี่ยนวิธีการเล่น Black Ops ไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในเกม FPS ที่น่าจับตาที่สุดบน PS5 ในปีหน้าครับ

ท่านที่สนใจสินค้าพร้อมจำหน่ายที่ Happyconsole! ✅