Call of Duty: Modern Warfare 2019 เล่าใหม่ ตีความใหม่ มุมใหม่ ในเนื้อหาเดิม

5 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ถ้าจะพูดถึงเกมยิงเนื้อหาแนวทหาร ซีรีส์ที่อยู่กับชาวเกมเมอร์มานาน คงหนีไม่พ้น Call of Duty ซีรีส์สายทหารเนื้อหาเข้มข้น ที่เน้นเล่าเรื่องในเสกลที่ใหญ่ กว้าง และสะเทือนใจในแบบฉบับสีกากี และถึงแม้ว่าตัวเกมจะอัพเกรดเป็นตัวเกมฉบับรายปี แต่ก็ไม่ได้ถูกลดทอนคุณภาพลงแต่อย่างใด

ล่าสุด Call of Duty จัดเซอร์ไพรส์ใหญ่แห่งปี กลับมาในฐานะ Modern Warfare อีกครั้ง หลังจากเนื้อหาเดิม สิ้นสุดไปในปี 2011 การกลับมาครั้งนี้ จึงเป็นการ ‘รีเมค’ ตัวเกมในภาคแรกของเฮดไลน์ Modern Warfare ไปโดยปริยาย

และการกลับมาครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Black Ops 4 สร้างความผิดหวังให้กับแฟนเกมไปแล้ว Modern Warfare จึงเป็นการ ‘กู้ศรัทธา’ ของแฟนเกมคืนมา งานนี้จะเจ๋งแค่ไหน ไปอ่านกันเลยกับ พรีวิว Call of Duty: Modern Warfare จากทีมงาน Happy Console

เล่าใหม่ ตีความใหม่ มุมใหม่ ในเนื้อหาเดิม

Call of Duty: Modern Warfare ยังใช้เนื้อหาจากรากฐานเดิมของมัน ตัวเนื้อเรื่องยังเล่าเกี่ยวกับหน่วย SAS นำโดย John Price ที่ต้องเผชิญหน้ากับการก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการก่อสงคราม งานนี้พวกเขาจึงต้องคิดหาวิธี ที่จะกำจัดผู้ก่อการร้าย พร้อมกับช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยไปด้วยพร้อม ๆ กัน

แต่ในฐานะที่ตอนนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมาก Modern Warfare ในครั้งนี้ จะถูกพัฒนาการเล่าเรื่องให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เห็นมุมใหม่ ๆ มากกว่าเดิม และจะกดเน้นไปที่เส้นอารมณ์ของผู้เล่นอย่างเต็มที่

รายละเอียดใหม่ ๆ ก็ถูกอัพเดตเข้ามาเช่นกัน ในเมื่อตัวเกมเลือกที่จะเล่าเนื้อหาในมุมมองใหม่ คราวนี้เราได้ตัวละครใหม่อย่าง Kyle Garrick และ Farah ที่เข้ามาเสริมในด้านความคิดของตัวละครให้สมบูรณ์ ส่วนของ Kyle นั้นพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดผู้ก่อการร้าย โดยที่ไม่สนผู้คนบริสุทธิ์ และ Farah เป็นหน่วยต่อต้านที่มีแนวคิดเป็นของตนเอง

แน่นอนว่าเนื้อหาในด้านกลืนไม่เข้าคายไม่ออกยังคงอยู่เหมือนเก่า และจะใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น งานนี้ฉากต่าง ๆ ที่เคยดราม่า งานนี้มันจะเรียกน้ำตามากกว่าเก่า ซ้ำยังเรียกน้ำตาได้แม้คนที่ไม่ใส่ใจกับการเล่นมากนัก

จริงจัง จริงใจ ไม่อาร์เคด

Call of Duty ถูกมองมาโดยตลอดว่าเป็นเกมประเภทการแข่งขันแบบอาร์เคด คือไม่จำเป็นจะต้องคิดเยอะ แค่ยิง ๆ เก็บสกอร์ ปล่อยนิวเคลียร์ เน้นเอามัน แต่ในภาคนี้ กันเพลย์จะสมจริงยิ่งขึ้น และหลีกหนีความเป็นอาร์เคดออกมาราวคืบหนึ่ง

จากที่เราเห็นในเกมเพลย์ ตัวการยิงถูกปรับใหม่ให้สมจริงมากยิ่งขึ้น ทั้งเสียง อัตราลั่นกระสุน รวมถึงแรงดีด ที่สำคัญที่สุดคือการปรับระบบกระสุน จากเดิมที่มันจะแสกนร่างกายก่อนยิง ทำให้อัตราการโดนสูงมาก แต่ในภาคนี้ มันจะเป็นการปล่อยกระสุนให้พุ่งไปโดนเหมือนเกมอื่นแทน

ในแผนที่จะไม่มีจุดแดงแสดงให้เห็นอีกแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณจำเป็นจะต้องปิง หรือส่งเสียงบอกเพื่อนแทนว่าศัตรูอยู่ทางนี้ สร้างความสมจริงในการเล่น และลดการใช้ไอเท็มประเภทเก็บเสียงไปได้ระดับหนึ่ง

แต่งปืนตามสไตล์ ด้วยระบบ Gunsmith

จุดเด่นอีกจุดหนึ่งที่ Call of Duty มีเกือบทุกภาค คือการแต่งปืน ใน Modern Warfare ระบบนี้จะถูกเรียกว่า Gunsmith และมันจะละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม ถึงขนาดที่ว่า ‘รองรับการเล่นทุกสไตล์’ ยกตัวอย่างเช่น Assault Rifle ที่สามารถแต่งได้ถึง 9 ส่วน ไม่ว่าจะเป็น ปากกระบอกปืน, เลเซอร์, กล้อง, พานท้ายปืน, ด้ามจับปืน, ซองกระสุน, อาวุธเสริม, กระบอกปืน หรือ Perk

ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหลายมีทั้งจุดเด่นจุดด้อยในตัวมันเอง หากคุณต้องการให้มันสมดุล และเข้ากับสไตล์การเล่นมากที่สุด การนั่งจัดระเบียบอุปกรณ์พวกนี้เสียหน่อยคงไม่ใช่เรื่องเสียหาย

คือการยกระดับตัวเองไปอีกขั้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านอกจากมันจะเป็นการรีเมคภาคที่ดีที่สุดของ Call of Duty แล้ว มันยังเป็นการยกระดับซีรีส์ขึ้นไปอีกขั้นด้วย เริ่มจากเนื้อหาที่กลับมาจริงจังจริงใจมากขึ้น หลังจาก Black Ops ทำพัง หรือแม้กระทั่งโหมดการเล่นต่าง ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่แบบอัดแน่น

ถึงแม้ตัวเกมจะเป็นแบบปีต่อปี แต่ต้องขอยกนิ้วให้กับการพัฒนาที่มากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะ Gun Play ที่พัฒนาอย่างสุดจริง ๆ ทั้งความแน่นของเสียง ความสนุกของการยิง รวมถึงแท็กติกในแมตช์โดยรวม นับว่าเป็นผลงานอีกชิ้นของ Call of Duty ที่ควรยกขึ้นหิ้งอย่างแท้จริง

รู้ขนาดนี้แล้วตัดสินใจกันได้หรือยังว่า Call of Duty: Modern Warfare เหมาะสมกับคุณหรือเปล่า ? ถ้าคิดว่าอยากได้และต้องจัดเดี๋ยวนี้เลย สามารถติดต่อเรา HappyConsole ตามช่องทางด้านล่างเพื่อสั่งซื้อสินค้าได้เลยจ้า

ราคา
PS4 - Call of Duty: Modern Warfare ราคา 1,890 บาท

สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อเกม Call of Duty: Modern Warfare สามารถสั่งซื้อได้ที่