Come Back!! Pro Wrestler

6 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

บาดเจ็บ 1 ครั้ง 1 บทเรียน เพื่อก้าวต่อไป…

ในวัยเด็ก บางคนคงจะเคยตื่นเช้ามาในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อรอดูการ์ตูน และต่อด้วยมวยปล้ำ WWE ดูแล้วก็เลือดร้อนมาเล่นมวยปล้ำต่อกับเพื่อน กับพี่ กับน้อง เราติดใจอะไรในมวยปล้ำ? เด็กผู้ชายอาจจะชอบอะไรที่เร้าใจ และมวยปล้ำมันก็เป็นกีฬาการต่อสู้ที่มีครบรส ทั้งบทบาทของนักกีฬา เรื่องราวที่เข้มข้น ผสานกับเสียงพากย์อันเป็นเอกลักษณ์หาตัวจับได้ยากอย่าง “น้าติง” ที่พากย์จริงจังบ้าง ติดตลกบ้าง แต่ก็เป็นขวัญใจๆ ของเด็กๆ ที่ดูมวยปล้ำเลยทีเดียว

มวยปล้ำเป็นกีฬาเพื่อความบันเทิง (Sport & Entertainment) ที่นำนักกีฬา 2 คนมาต่อสู้กันภายใต้กติกา “ใครถูกจับกดนับ 3 ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ด้วยกฎที่เข้าใจง่ายนี้ ผู้รับชมจึงสนุกได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากการนำคนมาสู้กันแล้ว นักกีฬาแต่ละคนยังมีกิมมิคเป็นของตัวเองที่นำมาเพิ่มอรรถรสมากขึ้น ทั้งกิมมิคแบบนักสู้ที่โจมตีด้วยศอก ชกและเตะ กิมมิคว่องไว เหินเวหา กิมมิคตัวใหญ่จอมพลัง เป็นต้น ด้วยความแตกต่างกันนี้ ผู้ชมก็สามารถที่จะเลือกเชียร์นักมวยปล้ำที่ตนชอบ มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกจนเป็นที่มาของกลุ่ม “ธรรมะ-อธรรม” เมื่อมีกิมมิค นักมวยปล้ำก็จะต้องสร้างเอกลักษณ์เสริมให้เป็นที่น่าจดจำต่อแฟนๆ เช่นเครื่องแต่งกายที่บ่งบอกสไตลของตัวเอง การเขียนหน้าตาให้ดูโหดมากขึ้น หรือแม้แต่ใส่หน้ากาก ความโดดเด่นของมวยปล้ำไม่ได้มากจากเรื่องราวและการต่อสู้เท่านั้น องค์ประกอบอื่นๆ ก็มีส่วนทำให้มวยปล้ำน่าสนใจ นั้นก็คือ การออกแบบแมทช์ให้มีกติกาพิเศษ เพิ่มความน่าตื่นเต้นมากขึ้น เช่น แมทช์แทคทีม สู้ในกรง หรือแม้แต่การตะลุมบอน 30 คนบนเวทีเดียวก็มี

ช่วงประมาณปี 1990-2000 มวยปล้ำอยู่ในยุคที่เรียกว่า Attitude Era ที่มีดาวดังมากมาย (เช่น The Rock ที่เรารู้จักกันดี) เมื่อวงการมวยปล้ำประสบความสำเร็จ สิ่งที่ตามมาคือเกมมวยปล้ำ ที่เรารู้จักกันดีก็คือ Smack Down ตั้งแต่สมัย PS1 และเกมได้รับความนิยมสูงสุดที่เกม WWE Smack Down :Here comes the pain บนเครื่อง PS2 ส่งผลให้เกมนี้กลายเป็นซีรี่ย์ ออกรายปีไป

ธุรกิจมีขึ้นมีลง…

เมื่อมียุครุ่งเรืองก็ต้องมียุคเสื่อมถอย นักมวยปล้ำตัวแม่เหล็กหลายต่อหลายคนได้หายออกจากสมาคม WWE ไปด้วยเหตุผลต่างๆ เสียชีวิตบ้าง ย้ายสมาคมบ้าง หรือไปประกอบอาชีพอื่นก็มี ความนิยมลดน้อยลงตามการเวลา เมื่อธุรกิจ WWE เริ่มซา ก็กระทบธุรกิจเกมด้วย

ถึงกระนั้น ตัวเกมก็ยังคงมีลูกเล่นมาดึงดูดให้แฟนมวยปล้ำต้องตัดสินใจซื้อภาคใหม่ๆ อยู่เสมอ ปรับปรุงโหมดใหม่ๆ นักมวยปล้ำหน้าใหม่ และนำหน้าเก่ายุค Attitude มาเป็นจุดขายอยู่เสมอ ตัวสมาคม WWE เองก็เหมือนจะเปลี่ยนแผนการตลาด จากการได้นักมวยปล้ำชื่อดังจากสมาคมอื่นมาอยู่ภายใต้สังกัดตน การเทรดนักมวยปล้ำญี่ปุ่นจากสมาคม NJPW เรียกได้เปิดตลาดทางฝั่งญี่ปุ่นได้ดีทีเดียว ทิศทางสมาคมอาจกำลังกลับมาขาขึ้นอีกครั้ง..

เกม WWE2K18 ประสบปัญหาพอร์ทลงเครื่อง Nintendo Switch แล้วเฟรมเรทตกหนักมาก ลงแพทช์แก้ไขยังไงก็ไม่หายซะที โหมด Showcase ที่ได้รับความนิยมก็ถูกนำออกไป และโหมด Career ที่หลายๆ คนบ่นว่าหน้าเบื่อ ทาง 2K จึงตัดสินใจทิ้งการพัฒนาเกมภาคนี้แล้วมาเริ่มโปรเจ็ค ภาค 2K19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แฟนไชน์ WWE2K น่าจะกลับมาเรียกความศรัทธาได้อีกครั้งในภาคล่าสุดที่จะวางจำหน่ายเร็วๆ (โหมด Showcase กลับมาแล้วด้วยนะ)