ผู้กำกับ Steven Spielberg
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ Ready player เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2045 ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการล่มสลาย แต่ผู้คนพบทางรอดชีวิตที่ดิ โอเอซิส ซึ่งเป็นจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ที่เราสามารถไปที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ เป็นใครก็ได้ ดิ โอเอซิสสร้างขึ้นโดย เจมส์ ฮัลลิเดย์ (มาร์ค ไรแลนซ์) เมื่อฮัลลิเดย์เสียชีวิตลง เขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลและอำนาจในการควบคุมดิ โอเอซิสทั้งหมดให้กับคนแรกที่ได้กุญแจทั้ง 3 ดอก เพื่อเปิดประตูสู่ไข่อีสเตอร์ดิจิตอลที่เขาซ่อนไว้ในสถานที่ ความท้าทายของเขาทำให้เกิดเกมที่มีการแข่งขันขึ้นทั่วโลก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปีกระดานคะแนนกลับยังว่างเปล่าจนกระทั่งฮีโร่หนุ่มม้ามืดอย่าง เวด วัตส์ (ไท เชอริแดน) ภายใต้ชื่ออวตารอย่าง พาร์ซิวัล เอาชนะการแข่งขันได้เป็นคนแรก เขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียง...และตกเป็นเป้าหมาย ผู้มีอำนาจที่โหดเหี้ยมอย่าง โนแลน ซอร์เรนโต (เบ็น เมนเดลซอห์น) ได้พิสูจน์ว่าเขาจะทำทุกทางเพื่อเอาชนะเวดและควบคุมดิ โอเอซิส จนการเดิมพันยิ่งใหญ่เกินจริง เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะได้เพียงลำพัง เวดต้องร่วมมือกับเพื่อนๆ ของเขาในนามเดอะ ไฮไฟว์ (เชอริแดน, โอลิเวีย คูก, ลีนา เวธ, ฟิลลิป เซา, วิน โมริซากิ) พวกเขาต้องร่วมมือกันในการล่าสมบัติผ่านโลกแห่งการค้นพบสุดมหัศจรรย์และอันตรายเพื่อปกป้องดิ โอเอซิส
[รีวิว]
แหม่เพียงแค่อ่านเรื่องย่อก็เป็นที่น่าสนใจไปไม่น้อยสำหรับคอ GAMER อย่างเราๆโดยเนื้อเรื่องของภาพยนต์เรื่องนี้ จะตัดสลัดไปมาระหว่าง OASIS (โลกในเกมส์) และโลกแห่งความจริงและ ซึ่งตัวหนังก็ใช้พล็อคเรื่องที่ออกจะเป็นแล้วสูตรสำเร็จแต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูหน้าเบื่อแต่อย่างใดด้วยและด้วย CG ที่คุณภาพมากๆ (แค่ดู CG ก็คุ้มแล้ว) กับมุขตลกที่แทรกมาในหนังอย่างลงตัวทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้จัดอยู่ในเรตที่ว่าชาว GAMER อย่างเราไม่ควรพลาด!!
กิมมิคของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการผจญภัยไขปริศนาต่างๆเพื่อตามล่าสมบัติของ เจมส์ ฮัลลิเดย์ ผู้สร้างโลก OASIS ถ้าใครชอบเกม Uncharted รับรองเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังนอกจากมีการผจญภัย การล่าสมบัติ ที่ใช้ตัวเกมส์ในการดำเนินเรื่องแล้ว หนังในเรื่องนี้ยังเหมือน ได้พาเราย้อนเวลาให้เรากลับไปในวัยเด็กได้อีกครั้งนึง แต่ก็ยังแฝงความล้ำสมัยของเทคโนโลยีในอนาคตเอาไว้ด้วย หนังเรื่องนี้จึงเหมือนกับเราอยู่ตรงกลางงระหว่างอนาคตกกับอดีตในวัยเด็กของเราทุกคนจึงถูกจริตกับคอเกมและคอหนังไซไฟ กับอนิเมะอย่างแน่นอน
(ภาพจากโปสเตอร์เกม Uncharted 4)
หากใครยังไม่มีสามารกดสั่งซื้อได้ที่นี่เลยน้าาา https://goo.gl/L9UeTT
จุดเด่นของเรื่อง
นอกจากการดำเนินเรื่องที่สุดโดยใช้กิมมิคเป็นการผจญภัยแล้ว ยังมีกลิ่นอาย Pop culture จากยุค 80-90 ทั้งรถยนต์จาก ภาพยนต์ Black to the future มอเตอร์ไซด์จากอนิเมะ Akira และตัวการตูนอื่นๆ จากภาพยนต์ และอนิเมชั่นที่จะออกมาทำให้คุณหายคิดถึงแล้วยังมี เพลงประกอบที่ทำให้คุณร้องว้าวหรือขนลุกเหมือนกับผมก็ได้โดยเฉพาะฉากที่เพลง You should be danceing จาก Bee Gees หรือ Stand on it ของ Bruce Springsteen ดังขึ้นอาจทำให้คุณนั่งยิ้มหรือฮัมเพลงเบาๆอยู่ในคอก็ได้ ส่วนเรื่องงานภาพ Steven Spielberg ก็ไม่ทำให้คุณผิดหวังแม้แต่น้อยทั้ง CG ฉากใหญ่และ Easter egg ที่ถูกแฝงมากับตัวเรื่องทุกอย่างดูมีมิติ เหมือนได้พาเราย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยหละ
(โปสเตอร์ภาพยนต์ที่เอามาจากภาพยนต์ยุค 80)
ด้านการดำเนินเรื่อง ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องที่สั้นกระชับ ลื่นไหล แทบไม่ทำให้ฟีลเราสะดุดเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าคุณไม่ใช่คอเกม ก็สามารถดูได้เพราะ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเท่าไหร่ และหากใครที่เป็นเกมเมอร์แต่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ขอบอกตรงนี้เลยว่า 140 นาที ต่อจากนี้คุณจะไม่รู้สึกเสียเวลาเปล่าอย่างแน่นอน ^^
ไม่มีหนังเรื่องไหนจะแฝงความ Nerd และความ Geek จนเท่าให้ผู้เขียนอินตามได้มากขนาดนี้ จึงขอให้คะแนนอยู่ที่ 9.5 เต็ม 10 หัก 0.5 เพราะให้เห็นกันดั้มน้อยเกินไปหน่อย 555 แล้วเพื่อนๆละคิดยังไงกับบทความนี้ คอมเม้นที่ด้านล่างได้เลย หรือมีหนังหรือเกมส์อะไรที่อยากให้เรารีวิวก็สามารถคอมเม้นทิ้งไว้ด่านล่างได้น้า ^^
- FLOWSTAR -
อัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับเกมส์และบทความอื่น ๆ คลิกที่นี่