อีกหนึ่งเกมซีรีส์ฟุตบอลโลกที่อยู่คู่วงการเกมมายาวนาน และเป็น IP สำคัญของ EA SPORTS มาตลอดต่อเนื่อง ที่กำลังจะมีเกมภาคใหม่ พร้อมกับการรีแบรนดิ้งเกมในชื่อใหม่ จากหลังจากเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของซีรีส์ด้วย ..เกริ่นมาแบบนี้เชื่อว่า แฟนเกมแนวฟุตบอล น่าจะทราบกันแล้วนะครับว่า เรากำลังพูดถึงสุดยอดเกมฟุตบอลที่หลายคนรอคอยอย่าง “EA SPORTS FC 24” นั่นเอง ที่เราเคยนำเสนอมาแล้วหนหนึ่ง ตอนที่เกมเปิดตัวอย่างเป็นทาง ที่ต้องยอมรับว่า กระแสในช่วงเปิดตัวค่อนข้างได้รับการตอบรับแบบครึ่ง ๆ เลย หลายคนตื่นตากับความอลังการ แต่ก็มีหลายคนเหมือนกัน ที่รู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ เพราะเกมไม่ได้นำเสนอเกมเพลย์อะไรให้ดูเลย ทำให้หลายคนยังคงรู้สึกชั่งใจกับเกม FC24 ภาคนี้อยู่ เพราะหากไม่เห็นเกมเพลย์ มันก็ทำให้เดาทิศทางของเกมได้ยาก
1. “HyperMotion V” ระบบที่เป็นมากกว่าแค่การจับการเคลื่อนไหวที่สมจริงเท่านั้น
ข้อเด่นใหญ่ ๆ ของเกมภาคนี้ ที่ EA ยกขึ้นมาเป็นจุดขายสำคัญของภาคนี้ ตั้งแต่ตอนเปิดตัวเกมช่วงแรก ๆ เลย นั่นคือเทคโนโลยีการจับความเคลื่อนไหวแบบใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาขึ้นมาใช้กับ FC24 เป็นเกมแรก นั่นคือ “HyperMotion V” นั่นเอง กับการเก็บภาพการเล่นของเหล่านักเตะตัวจริงในสนามโดยละเอียด และนำการเคลื่อนไหวของจริง มาใช้ในเกมได้อย่างสมบูรณ์เกือบ 100% ตามสโลแกนของเกมว่า “Moves like football. Plays like football. Looks like football.” ซึ่งไม่ได้มีผลแค่เรื่องของแอนิเมชันเท่านั้น แต่มันยังมีผลกับระบบในการเล่นด้วย เพราะจะทำให้ Movement ของนักเตะทุกคน มีการปะทะกันได้อย่างสมจริงมากขึ้น ทำให้จังหวะในการวิ่งจะดูมีน้ำหนัก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และด้วยความสมจริงจากพลังของเอนจิน Frostbite ก็ยิ่งทำให้เกมมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ที่อาจจะทำให้เราลืมจังหวะในการเล่นแบบเกม FIFA ภาคก่อน ๆ ไปเลย แต่ใครที่ชอบเกมการเล่นที่เน้นความเร็วสูงแบบเกม FIFA ในอดีต อาจจะต้องปรับความคุ้นชินกันสักเล็กน้อย
อย่างหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างน่าสนใจครับคือ ระบบการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “AcceleRATE 2.0” ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกสไตล์การควบคุมแต่ละแบบได้ง่ายขึ้น หลัก ๆ มี 3 แบบ ได้แก่ Controlled (เน้นการควบคุม) Explosive (เน้นการเข้าปะทะ) และ Lengthy (เน้นการรักษาระยะ) ทำให้เกมจะเน้นความ Casual มากขึ้น รวมไปถึงการมีระบบ Skills การอัพเลเวลด้วย EXP ที่ทำให้เกมมีระบบที่เน้นการ “วัดพลัง” ระหว่างผู้เล่น อันเป็นตรรกะในแบบของเกม RPG ทำให้เกมสามารถเข้าถึงผู้เล่นได้มากกว่าเดิม ทำให้เกมสามารถดึงดูดเกมเมอร์ได้หลายแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนชอบฟุตบอล ก็สนุกกับเกมได้ (แบบเดียวกับเกมอื่น ๆ ของ EA SPORTS เช่นเกม UFC ที่เข้าถึงผู้เล่นที่ชอบเล่นเกมไฟติ้งได้ ด้วยระบบการเล่นที่สนุก แม้จะไม่ใช่แฟนของกีฬา UFC เลยก็ตาม)
อีกหนึ่งความสนุกที่ถูกอัปเกรดเพิ่มขึ้นมาจากเกมภาคก่อนมาก นั่นคือระบบการปลด เพิร์ก (Perk) เพื่อใส่สกิลให้กับนักเตะในทีมของเรา ที่เกมเรียกว่า “PlayStyles” ที่แม้ระบบเพิร์ก อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของเกม FIFA แต่ใน FC24 ครั้งนี้ ได้มีการปรับปรุงระบบเพิร์กให้มีความละเอียด มีความหลากหลาย และมีความชัดเจนในการเลือกใส่มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเสริมแรงการยิงประตูให้กับนักเตะ การเพิ่มโอกาสในการป้องกันนักเตะระหว่างเลี้ยงบอลให้สูงขึ้น หรือแม้แต่เพิ่มความเร็วในการวิ่งให้กับนักเตะ PlayStyles หลายแบบกึ่ง ๆ จะสามารถเป็น “ท่าไม้ตาย” ได้เลย หากเราสามารถเลือกใส่ให้กับนักเตะได้อย่างถูกตำแหน่ง หรือจะเล่นตาม PlayStyles ที่ถูกจัดมาแล้ว สำหรับสกิลเฉพาะตัว ของนักเตะชื่อดังที่เราชื่นชอบ ก็ทำได้เช่นกัน เรียกได้ว่า เป็นระบบการเล่น ที่จะสร้าง “Styles” ในแบบของคุณเอง
อีกหนึ่งโหมดที่อยู่คู่กับเกม FIFA มาแล้วหลายภาคอย่างขาดไม่ได้ ก็คือโหมดการจัดการและไต่เต้าขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพอย่าง Career Mode นั่นเอง ที่ยังคงมาพร้อมทั้ง “Player Mode” สำหรับทีมฟุตบอล และ “Manager Mode” สำหรับผู้จัดการทีม โดยหลัก ๆ ทั้ง 2 โหมดจะมีความคล้ายกับในภาคก่อน ๆ เพื่อให้แฟนเกม FIFA สามารถทำความคุ้นเคยได้ง่ายนั่นเอง (ที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันดูธรรมดาไปนิด เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรใหม่ให้ต้องเรียนรู้มากนัก แต่เพราะเพื่อเป็นการทำให้ผู้เล่น สามารถเข้าถึงได้ในเวลาไม่นาน นั่นเอง) โดยระบบการจัดการนักเตะ เมื่อนำมาใช้งานกับระบบ PlayStyles ก็จะทำให้ระบบการเล่นมีความเป็น RPG มากกว่าเดิม โดยเฉพาะใน Manager Mode ที่ในคราวนี้ เกมจะให้เราดูผลการแข่งข้างสนามอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อแยกจาก Player Mode และให้สมการเป็นโหมด Manager มากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเกมแนว Football Manager มากขึ้น)
โหมดออนไลน์ไม่ใช่ของแปลกใหม่สำหรับเกม FIFA นะครับ แต่สำหรับโหมดออนไลน์ของเกม FC24 นี้ ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดในการรับผู้เล่นที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยชุมชนออนไลน์ที่พร้อมรองรับผู้เล่น ให้เข้ามามีส่วนร่วมกันได้แบบทั่วโลก ในชื่อใหม่ว่า “Clubs” (ชื่อเดิมตอนแรกคือ FC FUTURE) ที่รองรับทุก ๆ ระบบการเล่นของเกม โดยยึดใช้ระบบการจัดการและอัปเกรดนักเตะอย่าง Ultimate Team (ซึ่งก็คือ FIFA Ultimate Team หรือ FUT ของเกมภาคก่อน ๆ นั่นเอง) และนำพาผู้เล่นจากทุกมุมโลก และทุกเครื่องคอนโซล ให้มาเจอกันได้ พร้อมกับระบบปรับแต่งที่พร้อมให้สำหรับผู้เล่นทุกชนชาติ แม้กระทั่งบ้านเราเอง (มีเพลงชาติไทย สำหรับให้ผู้เล่นชาวไทยปรับในหน้า Anthem ของเราเองได้แล้วนะ!)
ความโดดเด่นของ EA SPORT FC 24 ที่น่าสนใจแบบที่เกมเมอร์ไม่ควรพลาด นั่นคือการพยายามทำให้เกม เป็นมากกว่าแค่เกมฟุตบอล แต่ยังสามารถเป็นชุมชนออนไลน์ของเกมเมอร์สายท้าแข้ง ให้สามารถร่วมกันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ในเกม FIFA ภาคก่อน ๆ ในอดีต และต้อนรับผู้เล่นในทุก ๆ ระดับ ด้วยเกมเพลย์ที่เข้าถึงได้ ซึ่งทาง EA Games ก็รับประกันเป็นอย่างดีครับว่า นี่จะต้องเป็นเกมที่สานต่อจิตวิญญาณของเกม FIFA และยกระดับทุก ๆ ด้านของเกม ให้ดีเยี่ยม สมฐานะเกมฟุตบอลแห่งยุค Next-Gen ได้อย่างแน่นอน ใครกำลังรออยู่ เตรียมตัวรับแรงกระแทกกันไว้ได้เลยครับ วางจำหน่ายแล้ววันนี้! ในทุกเครื่องเกมคอนโซลยุคปัจจุบัน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดศักราช เกมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกมนี้ไปด้วยกัน
บทความโดย SHODAN
PS5 – EA Sports FC 24 ราคา 2,490 บาท
PS4 – EA Sports FC 24 ราคา 2,490 บาท
Switch – EA Sports FC 24 ราคา 2,090 บาท
สำหรับท่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่
อินบ็อกซ์เพจ: m.me/happyconsole
ไลน์ไอดี: @happyconsole
เว็บไซต์: happyconsole.com
อินสตาแกรม: bit.ly/2kuFVpT
แฮปปี้คอนโซล (หน้าชิงช้าสวรรค์ยักษ์) เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
แฮปปี้คอนโซล (ชั้น 3) เทอร์มินอล 21 พระราม 3
เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00 - 21.00 น.
อัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับเกมส์ “คลิกที่นี่”