เป็นเวลาหลายปีที่เกม “Pokémon GO” เกม AR บนสมาร์ตโฟน ที่ให้เราออกไปจับเหล่า “โปเกม่อน” ในโลกความจริง เปิดบริการออกมาให้เราได้เล่นกัน (เพิ่งจะครบ 8 ปีอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมานี้เอง) เกมได้รับกระแสความฮือฮาแบบถล่มทลาย กับการเอาระบบจับโปเกม่อน มาผสมเข้ากับเทคโนโลยี AR ที่เราต้องออกไปทำกิจกรรมในโลกความจริง จนประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย มาถึงตอนนี้ กระแสในหมู่มวลชนของ Pokémon GO ก็ดูจะเริ่มซาลง หลายคนคิดว่า เกมก็คงหมดกระแสความนิยมไปตามกาลเวลา แต่ดูจากความนิยมในหมู่ผู้ที่ยังเล่น Pokémon GO กันทุกวันนี้ บอกได้เลยครับว่า “ยังไม่หมด” จำนวนผู้เล่นของ Pokémon GO ที่ยังคงเล่นอย่างเหนียวแน่นอยู่ เพราะตราบใดที่ฐานแฟนคลับของโปเกม่อน ยังคงมหาศาล Pokémon GO ก็ดูจะไปต่อได้เรื่อย ๆ ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้ตัวเกมได้รับการต่อยอด “อัพเดต” อยู่เสมอ
ทำความเข้าใจกันก่อนครับ.. Pokémon GO Plus คือชื่อของอุปกรณ์เสริมรุ่นแรกที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2016 (อ่านว่า “โปเกม่อน โก พลัส”) ส่วน “Pokémon GO Plus + คือรุ่นล่าสุด ที่วางจำหน่ายในปี 2023 นี้ (อ่านว่า “โปเกม่อน โก พลัส พลัส”) …แต่จริง ๆ เรื่องชื่อดูจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ เพราะในด้านดีไซน์ ทั้ง 2 รุ่นก็แตกต่างกันมาก แบบดูแว้บเดียวก็รู้แล้วว่า รุ่นไหนเป็นรุ่นไหน (แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนป้องกันการสับสนครับ) โดย Pokémon GO Plus + ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์เสริมไร้สาย Auto-Catcher สำหรับใช้ปา PokéBall ได้ทันที เมื่อพบโปเกม่อนตัวใหม่ หรือแจ้งเตือนเมื่อพบเสา PokéStop จุดใหม่ได้ โดยที่เราไม่ต้องเปิดหน้าจอมือถือดูตลอดเวลา โดยเชื่อมต่อผ่านทางบลูทูธเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งานในรูปแบบใหม่ จากเดิมที่มาในรูปทรงของ Map Symbol ลาย Poké Ball (ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกม) คราวนี้ก็มาในรูปทรงของ Poké Ball ทรงกลมแบบดั้งเดิม ที่เราคุ้นเคยกัน ที่สามารถจับได้อย่างเหมาะมือ (แถมเท่ด้วย)
และในคราวนี้ Pokémon GO Plus + ยังรองรับการใช้งาน PokéBall หลายประเภทด้วย จากเดิมที่ Pokémon GO Plus จะรองรับแค่เฉพาะ PokéBall แบบปกติเท่านั้น คราวนี้เราสามารถปาบอลแบบอัตโนมัติได้ทั้ง Great Ball และ Ultra Ball ได้ด้วย (ที่รุ่นแรกยังทำไม่ได้ เพื่อสร้างสมดุลไม่ให้การใช้งาน PokéBall ของคนใช้ Pokémon GO Plus มันดูโอเวอร์พาวเวอร์มากไปนั่นเอง.. แต่มาตอนนี้ เรื่องสมดุลคงไม่สำคัญเท่าความสนุกแล้ว เพื่อเน้นความสะดวกให้กับผู้เล่นโดยเฉพาะแบบเน้น ๆ)
การใช้งานร่วมกับ Pokémon GO ก็เป็นความสนุกที่น่าสนใจครับ แต่ดูเหมือนว่า ไฮไลท์จริง ๆ ในการใช้ Pokémon GO Plus + ที่ทาง Nintendo พยายามจะนำเสนอเป็นหลัก ก็น่าจะเป็นความสามารถในในเชื่อมต่อ เข้ากับเกมโปเกม่อนสำหรับสายพักผ่อน อย่าง “Pokémon Sleep” นี่เอง กับเกมที่เป็นเหมือนขั้วตรงข้ามของ Pokémon GO จากที่เราต้องออกไปโลกกว้างเพื่อจับโปเกม่อน คราวนี้ Pokémon Sleep จะเป็นการเล่นโดยการตรวจจับระยะเวลาการนอนของเราแทน เพื่อดูว่ารูปแบบการนอนหลับของเรา ตรงกับโปเกม่อนตัวไหนบ้าง โดยมีเจ้า “สนอร์แล็กซ์” หรือ “คาบิกอน” โปเกม่อนจอมหลับเป็นตัวหลักของเกม
สำหรับ Pokémon Sleep เป็นเกมที่เคยประกาศออกมานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี 2019 แต่ยังไม่ถูกปล่อยให้ดาวน์โหลด เพราะยังต้องพัฒนาระบบการเล่นให้มีความลงตัวและเหมาะสมเป็นอย่างดีเสียก่อน ซึ่งล่าสุด ปี 2023 นี้ ก็ดูเหมือนว่า Pokémon Sleep จะได้ฤกษ์ออกมาให้เราเล่นกันแบบจริงจังซะทีครับ โดยมีเจ้า Pokémon GO Plus + นี่แหละเป็นอุปกรณ์เสริม ที่เกิดมาเพื่อรองรับการใช้งานกับ Pokémon Sleep โดยเฉพาะ เพียงแค่เอาวางไว้ข้าง ๆ หมอนตอนที่หลับ ก็สามารถใช้งานผ่านปุ่มบน Pokémon GO Plus + ได้ทันที โดยไม่ต้องดูหน้าจอมือถือ พร้อมกับเสียงเพลงกล่อมนอนของ “พิคาชู” ที่น่ารักน่าชังสุด ๆ แบบใครนอนไม่หลับก็บ้าแล้ว ..นอกจากนี้ เกมยังมีแพลนที่ให้เราสามารถใช้ข้อมูลนอนหลับของเราไปใช้กับ Pokémon GO ได้ด้วย (ซึ่งต้องรอการอัพเดตกันต่อไป)
การสานต่อชื่อของ Pokémon GO ด้วย Pokémon GO Plus + และ Pokémon Sleep ก็ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จ และการันตีฐานแฟนอันเหนียวแน่นของโปเกม่อนได้เป็นอย่างดีนะครับ ว่าสำหรับวงการเกม ถ้า IP ยังคงแข็งแรง มีฐานแฟนพร้อมให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เกมก็จะสามารถสร้างอะไรดี ๆ มาช่วยสร้างความสดใหม่ให้กับผู้เล่นได้อยู่ไม่มีเสื่อมคลายแน่นอน สำหรับ Pokémon GO ก็สามารถแปรรูปตัวเองให้เป็นอะไรที่มากกว่าแค่เกม แต่กลายเป็นเหมือนแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวก ที่ช่วยให้ routine ในชีวิตประจำวันของเราไม่น่าเบื่อ ซึ่งเราก็ต้องมารอดูกันต่อไปนะครับว่า กระแสความนิยมใน Pokémon GO จะสามารถต่อยอดไปได้ถึงไหนอีกบ้าง
บทความโดย SHODAN
Pokémon GO Plus + ราคา 1,990 บาท
สำหรับท่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่
อินบ็อกซ์เพจ: m.me/happyconsole
ไลน์ไอดี: @happyconsole
เว็บไซต์: happyconsole.com
อินสตาแกรม: bit.ly/2kuFVpT
แฮปปี้คอนโซล (หน้าชิงช้าสวรรค์ยักษ์) เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
แฮปปี้คอนโซล (ชั้น 3) เทอร์มินอล 21 พระราม 3
เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00 - 21.00 น.
อัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับเกมส์ “คลิกที่นี่”