PREVIEW: Baldur’s Gate III การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ของเกม RPG แฟนตาซีสุดเก๋า

 
           เมื่อพูดถึงชื่อ Baldur’s Gate เกมเมอร์สมัยนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นกันแล้ว แต่ถ้าเป็นเกมเมอร์ยุค 90s เชื่อว่าต้องอ๋อกันไม่มากก็น้อยแน่นอน เพราะนี่คือหนึ่งในสุดยอดเกมแฟนตาซี RPG ระดับตำนาน ผลงานชิ้นเอกของทีมพัฒนา Bioware ที่เคยประสบความสำเร็จระดับพลิกวงการมาแล้ว ในยุคนี้ชื่อ Baldur’s Gate อาจจะหายไปจากสายตาของเกมเมอร์ไปนาน เนื่องจากเกมไม่ได้มีภาคต่อออกมานานมาก

จนกระทั่งปี 2023 นี้ สิ่งที่แฟน ๆ รอมานานก็กำลังจะเป็นจริงแล้วครับ เพราะ “Baldur’s Gate III” กำลังจะมาให้เราเล่นกันจริง ๆ แล้ว และถือเป็นภาคต่อโดยตรงของซีรีส์หลัก ที่ห่างจากภาคที่แล้วมานานถึง 23 ปี! และก่อนที่เราจะได้กลับไปสู่ดินแดน Forgotten Realm กันอีกครั้ง Baldur’s Gate เคยสร้างปรากฏการณ์อะไรให้กับวงการเกมมาแล้วบ้าง? และแฟน ๆ จะได้พบกับอะไรในภาคที่ 3 ของซีรีส์ภาคนี้? เราลองมาย้อนรอยความสำเร็จ และมองไปสู่อนาคต ของ Baldur’s Gate III กันครับ!

ความสำเร็จของที่พลิกวงการ และสร้างมรดกให้กับวงการเกมมาจนถึงปัจจุบัน

           Baldur’s Gate มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นเกมที่ setting อยู่ในจักรวาลของเกม Dungeons & Dragons (D&D) อีกที ในแคมเปญชื่อ “Forgotten Realm” กับเรื่องราวของเหล่านักรบทั้ง 6 ผู้ออกเดินทางผจญภัย ภายในดินแดน “Faerûn” ที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ และความขัดแย้งจากหลายฝ่าย ด้วยวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่ (ในยุคนั้น) ไม่ใช่เรื่องราวแนวผู้กล้าผจญภัยทั่วไป แต่เต็มไปด้วยเนื้อเรื่องสุดเข้มข้นพลิกผัน ที่เต็มตัวเลือกในการตัดสินใจที่ท้าทายศีลธรรม พร้อมกับระบบการเล่นที่มอบอิสระให้กับผู้เล่น แบบที่ไม่เคยมีเกมไหนทำมาก่อน แถมยังรองรับโหมดผู้เล่นหลายคน ให้ร่วมผจญภัยไปพร้อมกันได้

หลังจาก Baldur’s Gate ภาคแรก วางจำหน่ายในปี 1998 มันก็ได้สร้างปรากฏการณ์ที่สะเทือนทั้งวงการเกมในทันที ระบบการสำรวจโลก สร้างตัวละคร และการต่อสู้ ที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยรายละเอียด กลายเป็นต้นแบบให้กับเกม RPG ในยุคต่อมา โดยเฉพาะการนำเสนอโลกของเกมที่ละเอียดลออ ระบบ “Alignment” เลือกอุปนิสัยของตัวละคร ที่มีผลกับเกมจริง ๆ จนเป็นที่ถูกใจเกมเมอร์ หลายสื่อยกให้ Baldur’s Gate กลายเป็นเกมที่คืนชีพเกมแนว RPG แฟนตาซี ต้อนรับสหัสวรรษใหม่ มีภาคเสริมตามออกมาจำนวนมาก รวมถึงภาคแยกที่เป็นเกมสไตล์แอ็กชัน Hack & Slash ในชื่อ Baldur’s Gate: Dark Alliance และภาคต่อที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าภาคแรกอย่าง Baldur's Gate II: Shadows of Amn ในปี 2000 และทั้ง 2 ภาค ก็ยังคงมักจะติดอันดับหนึ่งในเกม RPG ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลเสมอ เมื่อมีการจัดอันดับ โดยเว็บไซต์ต่างประเทศ

“Baldur’s Gate III” การกลับมาสานต่อเรื่องราวมหากาพย์แฟนตาซีอันโด่งดังอีกครั้ง

          ปี 2019 มีข่าวที่สร้างความตื่นเต้นให้เกมเมอร์ ด้วยการคอนเฟิร์ม Baldur’s Gate ภาคที่ 3 อย่างเป็นทางการ โดยตั้งใจให้เป็นเกมชูโรงของเครื่อง Stadia แพลตฟอร์ม Cloud Gaming ของ Google ที่ตอนนี้ได้ล้มหายตายจากไปแล้ว ทำให้ Baldur’s Gate III กลายมาเป็นเกม Multi-Platform ที่ลงให้กับทั้ง PC, MacOS, PS5 และ Xbox Series X/S ด้วยความที่ทิ้งช่วงห่างจากภาคก่อนมานาน ทำให้ Baldur’s Gate มาพร้อมกับการนำเสนอใหม่ ๆ ตามสมัยนิยม ที่ยังคงเคารพในกลิ่นอายต้นฉบับเอาไว้เป็นอย่างดี ด้วยฝีมือของทีม Larian Studios เจ้าของซีรีส์เกมแฟนตาซี RPG ชื่อดังแห่งยุค 2000 อย่าง Divine Divinity ที่เคยได้รับอิทธิพลมาจาก Baldur’s Gate แบบเต็ม ๆ ที่คราวนี้พวกเขาก็ได้เป็นผู้สานต่อในการสร้าง Baldur’s Gate III ต่อจาก Bioware เรียกได้ว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

            ในภาคนี้ ระบบหลัก ๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม คือการสวมบทเป็นเหล่านักรบในคลาสต่าง ๆ เพื่อออกสำรวจ และผจญภัยในดินแดน Forgotten Realm ด้วยคุณภาพกราฟิกที่สวยงามอลังการ ตามสไตล์เกม Next-Gen ปัจจุบัน โดยเอนจินตัวเดียวกับที่ใช้สร้างเกม Divinity มาตลอด (จึงไม่แปลกครับที่ดูเผิน ๆ เกมจะดูเหมือน Divinity ภาคใหม่มากกว่า ไม่ว่าจะงานศิลป์หรือหน้า UI) ซึ่งก็ถือเป็นการเติมรสชาติใหม่ ๆ เข้าไปในดีไซน์ในสไตล์ Baldur’s Gate ที่น่าสนใจ และร่วมสมัย เรียกได้ว่าห่างไกลจากภาพเหลี่ยม ๆ ของเกมสองภาคแรก เมื่อ 23 ปีที่แล้วมาไกลสุด ๆ  

โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปแบบชัดเจนจริง ๆ ในภาคนี้คือ “ระบบการต่อสู้” จากที่ในภาคก่อน ๆ จะยึดใช้ระบบตีศัตรูแบบ Real-Time มาตลอด คราวนี้ได้กลายมาเป็นระบบ Turned-Base แบบผลัดกันตีแทน จุดนี้อาจจะทำให้แฟน Baldur’s Gate ตั้งแต่ภาคแรก อาจจะรู้สึกเป็นแปลกใจเล็กน้อย ที่เกมเปลี่ยนระบบต่อสู้ที่เคยเป็นเอกลักษณ์ไป แต่จากคนที่ได้สัมผัสตอนเวอร์ชัน Early Access มาแล้ว หลายคนก็ให้การตอบรับไปในทางที่ดี ถือเป็นการเอาระบบคลาสสิก กับแบบตามสมัยนิยม ให้มาเจอกัน

          การมาของ Baldur’s Gate III สำหรับแฟน ๆ ของซีรีส์นี้ นี่แทบจะเรียกได้ว่าฝันเป็นจริง แม้ว่าเกมเพลย์บางส่วน อาจจะทำให้หลายคนยังรู้สึกแหม่ง ๆ นิดหน่อย กับทิศทางของเกมที่เปลี่ยนไปจากภาคก่อน เกมจะออกมาดีจนทำให้ชื่อ Baldur’s Gate สามารถกลับมาทวงบัลลังก์เกม RPG ได้เลยหรือไม่? ไว้มาลองพิสูจน์กันด้วยตัวเองครับ

บทความโดย SHODAN

PS5 - Baldur's Gate 3 ราคา 2,290 บาท