สำหรับเครื่องคอนโซลรุ่นล่าสุดของ SONY อย่าง Playstation 5 ที่เหล่าเกมเมอร์กำลังสนุกไปกับการเล่นเกมระดับ AAA อยู่ในขณะนี้ ซึ่งนอกจากในด้านความแรงของสเปกแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ SONY รวมถึงผู้ผลิตเครื่องเกมคอนโซลรายอื่น ๆ ชูขึ้นมาเป็นจุดเด่น ณ ตอนนี้ก็คือ การที่เราสามารถ เพิ่มหน่วยความจำ “Solid State Drive” หรือ SSD ได้ด้วย เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผล และเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บ เพื่อรองรับเกมที่สเปกสูงมากขึ้นได้ในอนาคต ถือเป็นมิติใหม่ของเครื่องเกมคอนโซลในยุคนี้ ที่ผู้ใช้สามารถอัปเกรดเครื่องได้ และสามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องยกเครื่องไปให้ร้านทำด้วย!
แต่ถ้าท่านใดยังรู้สึกว่า “แต่ฉันพอใจกับสเปกเครื่องของ PS5 เดิมมากแล้วนะ ฉันว่ามันก็สามารถใช้เล่นเกมได้ดีเลย ทำไมจะต้องเสียเงินซื้อ SSD มาใส่เพิ่มด้วย?” อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นครับ การเพิ่ม SSD ให้กับ PS5 มีความสำคัญ และมีประโยชน์อย่างมาก ในแบบที่คุณไม่ควรมองข้ามเลย เพราะมันมีผลต่อการใช้งาน PS5 ในระยะยาวของเราโดยตรง เราจึงขอมาบอก “เหตุผล 3 ประการ” ถึง ข้อดี ประโยชน์ และความสำคัญ ในการเพิ่ม SSD ให้กับเครื่อง PS5 ของคุณ!
เป็นความจริงที่ฟังดูโหดร้ายนิดนึงสำหรับคนเล่นเกมคอนโซลยุคนี้ เพราะฟังก์ชันเพิ่ม SSD ของ PS5 ไม่ใช่แค่ทางเลือกสำหรับเกมเมอร์ว่าจะทำหรือไม่ทำ ความตั้งใจของ SONY คือ “เพื่อเล่นเกมบน PS5 ได้แบบสะดวกโยธิน คุณต้องซื้อ SDD มาเพิ่ม!” เพราะด้วยความปริมาณ SSD แต่เดิมของเครื่อง PS5 ที่ไม่ได้สูง (825GB เท่านั้น) แล้วเกมสมัยนี้ก็ล้วนมีขนาดที่ใหญ่มาก และใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออัปเดตและติดตั้งส่วนเสริมลงไปทีหลัง การเพิ่ม SSD จึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำโดยเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการอิสระในการเลือกที่จะจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ บน SSD แบบไม่ต้องพะวงเรื่องความจุไม่เพียงพอ
อย่างที่ทราบกันว่า นับวันเกมระดับ AAA ก็ยิ่งมีพัฒนาการในด้านเทคโนโลยีมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะกราฟิก ที่ยิ่งสวยงามสมจริงมากขึ้น ประสิทธิภาพในการเรนเดอร์ที่เร็วมาก จนคำว่า Loading แทบจะไม่มีแล้ว เป็นการบอกเราแต่เนิ่น ๆ เลยว่า ต่อจากนี้ เกมจะยิ่งต้องใช้ทรัพยากรของเครื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ และหน่วย SSD พื้นฐานของเครื่อง ก็จะไม่พอแล้วสำหรับหลายเกม (โดยเฉพาะเกมที่เต็มไปด้วย Patch ภาคเสริม และ DLC แบบบานตะไท) การเพิ่ม SSD จึงมีประโยชน์อย่างมากในระยะยาวครับ
3. ยืดอายุการใช้งานของ PS5 ไปได้อีกหลายปี โดยไม่ต้องออกเครื่องรุ่นใหม่มาเร็วเกินไป
ในอดีตเมื่อเครื่อง Playstation มีการอัปเดต วิธีที่ SONY ใช้ก็คือ การออกเครื่องรุ่น “Pro” ที่ประสิทธิภาพสูงกว่าออกมา โดยฟังก์ชันหลัก ๆ ที่ตัว Pro มักจะเพิ่มเข้ามาเป็นลำดับแรก ๆ ก็คือ “หน่วยความจำ” นี่เอง แต่เมื่อ PS5 สามารถเพิ่ม SSD เองได้ ทำให้ระยะเวลาในการออก PS5 Pro อาจจะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพียงแค่เพิ่ม SSD เข้าไปอีกตัว ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และระยะการใช้งานออกไปได้ยาวอีกหลายปี ซึ่งเราถือว่า มันคือข้อดีที่สำคัญที่สุดเลยครับสำหรับการเพิ่ม SSD ให้กับเครื่อง PS5
ทีนี้เพื่อน ๆ ก็ได้ทราบความสำคัญ ของการเพิ่ม SSD ให้กับเครื่อง PS5 บ้างแล้วนะครับ หลายท่านที่ไม่เคยมองเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก่อน คงน่าจะสนใจ อยากซื้อ SSD มาใส่ให้เครื่อง PS5 กันบ้างแล้วแน่ ๆ …สุดท้ายนี้ เราเลยขอทำหน้าที่ มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ SSD ตัวแรงแห่งยุค “3 รุ่น” ที่เราแนะนำแบบอย่างแรง
แต่ก่อนจะไปชม SSD ที่แนะนำ ควรดูสเปกแนะนำจากทาง SONY ก่อนครับ เพราะไม่ใช่ว่าจะเอา SSD แบบไหนมาใส่ก็ได้ แต่ควรจะเป็นรุ่นที่เข้ากันได้กับเครื่องด้วย เช่น
1) ต้องเป็น SSD ประเภท M.2 เท่านั้น
2) ต้องเป็น SSD รุ่น PCle Gen 4 NVMe ขึ้นไป
3) ต้องมีความจุอย่างน้อย 250GB ถึง 4TB
4) ต้องมีความเร็วในการอ่าน 550MB/s ขึ้นไป
5) ต้องมี Heatsink ระบายความร้อน (ทั้งแบบที่มี Heatsink ในตัว และแบบที่ต้องติดตั้งทีหลัง)
ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง 3 รุ่นที่เราเอามาแนะนำ ล้วนมีสเปกตรงกับที่ทาง SONY ตั้งเอาไว้ครบทุกประการ มาดูกันว่า มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ ที่เรามาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกัน ดังนี้! 1. Corsair SSD MP600 PRO LPX
SSD จาก Corsair รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นที่ผู้ใช้ PS5 นิยมใช้กันค่อนข้างแพร่หลายครับ ถือเป็น SSD ที่หลายคนสนใจเป็นลำดับแรก ๆ ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูล 7,100MB/s และความเร็วในการเขียนข้อมูล 6,800MB/s ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมชนิดที่ไม่สะสมความร้อน ที่ทำงานเข้ากันได้ดีกับ Thermal Pad และ Heatsink ทำให้ค่อนข้างจะเป็นมิตร สำหรับเกมเมอร์หลายคน โดยเฉพาะมือใหม่หัดแงะ PS5
2. Transcend MTE250H: PCIe NVMe M.2 SSD
SSD ที่มาแรงไม่แพ้กันครับกับแบรนด์ Transcend ที่มาพร้อมกับจุดขายในด้านความเร็วแบบเน้น ๆ ด้วยหน่วยประมวลผล PCle SSD 250H Gen 4 x4 ทำความเร็วในการอ่านข้อมูล 7200MB/s และความเร็วในการเขียนข้อมูล 6500MB/s พร้อมกับ Thermal Pad บางเฉียบ แต่สามารถระบายความร้อนได้ดีมาก เล่นทั้งวัน ความร้อนก็จะไม่เพิ่มเกินไปกว่า 15% เลยตลอดการใช้งาน จึงเป็นอีกทางเลือกที่ advance ขึ้นมาอีกระดับ ในการเลือกใช้ SSD สำหรับ PS5
3. Hiksemi FUTURE Consumer SSD
นี่สิ ขุมพลังใหม่แห่งปี 2023 ของจริง! กับ SSD จาก Hiksemi FUTURE ที่ล้ำอนาคตสมชื่อ รองรับเกม Next-Gen ได้แบบแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพจากหน่วยประมวลผล PCle 4.0 NVMe M.2 ทำงานได้ดีร่วมกับ Heatsink ที่ผ่านการดีไซน์มาเป็นอย่างดี ให้การระบายความร้อนทำงานเป็นระบบ จนสามารถทำความเร็วในการอ่านสูงได้ถึง 7450MB/s และความเร็วในการเขียน 6750MB/s! ซึ่งสูงที่สุดแล้วของ SSD ในยุคปัจจุบัน แบบที่สามารถรองรับขนาดของเทคโนโลยีเอนจี้นเกมใหม่ ๆ ได้แบบสบายแฮ
ก็ประมาณนี้นะครับกับ SSD ขั้นเทพทั้ง 3 รุ่นที่เราแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ถือเป็น SSD ระดับแนวหน้าของยุคนี้ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะของ Hiksemi FUTURE ที่เรา Recommend อย่างที่สุดว่า ถ้าคุณมีกำลังทรัพย์มากพอ ในการจัด SSD ขนาด 4TB ดี ๆ สักตัว รับรองว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน!
บทความโดย SHODAN
Corsair MP600 PRO SSD 1TB *Heatsink ฿2,590
Corsair MP600 PRO SSD 2TB *Heatsink ฿3,990
*ประกันศูนย์ไทย 5 ปี
Transcend MTE250H SSD 1TB *Heatsink ฿2,590
Transcend MTE250H SSD 2TB *Heatsink ฿3,990
Transcend MTE250H SSD 4TB *Heatsink ฿10,990
*ประกันศูนย์ไทย 5 ปี
Hiksemi FUTURE SSD 1024GB *Heatsink ฿2,590
Hiksemi FUTURE SSD 2048GB *Heatsink ฿3,990
Hiksemi FUTURE SSD 4096GB *Heatsink ฿8,990
*ประกันศูนย์ไทย 5 ปี
สำหรับท่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่
อินบ็อกซ์เพจ: m.me/happyconsole
ไลน์ไอดี: @happyconsole
เว็บไซต์: happyconsole.com
อินสตาแกรม: bit.ly/2kuFVpT
แฮปปี้คอนโซล (หน้าชิงช้าสวรรค์ยักษ์) เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
แฮปปี้คอนโซล (ชั้น 3) เทอร์มินอล 21 พระราม 3
เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00 - 21.00 น.
อัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับเกมส์ “คลิกที่นี่”