5 เหตุผลที่ทำให้ “Mortal Kombat 1” เป็นเกมที่น่าจับตามองที่สุดในรอบหลายปี!

1 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

เป็นเวลาถึง 4 ปี ที่ Mortal Kombat 11 ภาคก่อนหน้าของเกมต่อสู้สุดโหดที่เกมเมอร์รู้จักกันดีอย่างดี ได้วางจำหน่าย และสร้างความมันให้กับผู้เล่น มาในปี 2023 นี้ Mortal Kombat (ขอเรียกแบบย่อว่า MK) ก็กลับมาอีกครั้ง ในชื่อว่า “Mortal Kombat 1” ซึ่งจะเป็นการนับหนึ่งใหม่ นำซีรีส์เกมสุดโหดเกมนี้ กลับไปสู่ทิศทางตั้งต้นอีกครั้ง และยังถือเป็นปีที่ฉลองครบรอบ 30 ปีของซีรีส์ Mortal Kombat อีกด้วย ฉะนั้นพูดได้เลยครับว่า การคัมแบ็กครั้งนี้ของ MK ต้องมีความพิเศษ แบบไม่ธรรมดา รอเราอยู่ไม่มากก็น้อยแน่นอน

เราจึงขอมาพาเพื่อน ๆ มาดูกันว่า เพราะอะไร ทำไมการกลับมาของ MK ในครั้งนี้ จึงมีความน่าสนใจ และน่าจับตามองมากที่สุด ในรอบหลายปี ความพิเศษในแง่ไหนของเกม ที่จะสามารถดึงดูดบรรดาเกมเมอร์สายไฟว้ ให้มาร่วมละเลงเลือดกันในครั้งนี้ได้บ้าง? โดยเรามีเหตุผล 5 ข้อครับ ที่จะมาอธิบายว่า “อะไรที่ทำให้ Mortal Kombat 1 น่าสนใจมากเป็นพิเศษ?”

1. Mortal Kombat 1 คือการนับหนึ่งใหม่ “อีกครั้ง” ของซีรีส์

Mortal Kombat เคยทำการ “รีบู้ทแบบเบา ๆ” มาแล้ว ใน Mortal Kombat 9 เมื่อปี 2011 ที่เป็นการบิดเส้นเรื่องเดิม ด้วยการแทรกแซงเรื่องราวของเกมต้นฉบับ จนเกิดเป็นเส้นเรื่องใหม่ขึ้นมา แต่ในคราวนี้ Mortal Kombat 1 จะเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่แบบจริงจัง ล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาทั้งหมดตลอดทั้ง 11 ภาค และเริ่มสตาร์ทตั้งแต่จุดเริ่มต้น เป็นตำนานบทใหม่ที่เพิ่งเขียนเป็นหน้าแรก ในแบบที่ไม่จำเป็นต้องเล่น MK ภาคไหน ๆ มาก่อน และสามารถเริ่มเล่นภาคนี้เป็นภาคแรกได้เลย

2. เส้นเรื่องของเหล่าตัวละครที่ถูกเล่าใหม่ ให้แตกต่างจากภาคก่อน ๆ

ในเมื่อภาคนี้คือการรีบู้ทเรื่องราวใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เราคาดหวังได้จากภาคนี้เลยก็คือ เส้นเรื่องของตัวละครต่าง ๆ ที่จะถูกเล่าใหม่ทั้งหมด ทั้งจุดเริ่มต้น และเส้นทางชีวิตรูปแบบใหม่ ของเหล่าตัวละครคลาสสิก ที่เรารู้จักมายาวนานแล้ว เช่น สกอร์เปียน (Scorpion) กับ ซับซีโร่ (Sub-Zero) ที่เคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ตอนนี้กลายเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด, คิทาน่า (Kitana) ที่เคยเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้เป็นเพียงองครักษ์ที่คอยรับใช้ มิลีน่า (Mileena) ผู้เป็นเจ้าหญิงตัวจริง, เรเดน (Raiden) ที่เคยเป็นเทพเจ้าสายฟ้า ตอนนี้เป็นนักรบหนุ่มผู้ยังอ่อนประสบการณ์ เป็นต้น เป็นการตลบเล่าเรื่องราวในมุมใหม่ ในแบบที่แม้แต่แฟน MK มายาวนาน ก็ต้องเซอร์ไพรส์แบบรัว ๆ

3. ระบบการเล่นแบบ “คืนสู่สามัญ” เอาความสนุกแบบเรียบง่ายกลับมาอีกครั้ง

จากข้อมูลของเกมเพลย์ที่เปิดเผยออกมา ความตั้งใจหลักของ MK1 ที่เห็นได้ชัดคือ การพยายามทำให้เกมกลับไปสู่แนวทางที่เบสิกอีกครั้ง หลังจากที่เกมเพลย์ของ Mortal Kombat เริ่มจะเยอะแยะอิรุงตุงนังขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้ใน MK1 ได้โละระบบ Gears หรือ Variations ใด ๆ จาก MK11 ทิ้งไปหมด และหันมาใช้ระบบการจับคู่อย่าง “Kameo Fighter” เพื่อสร้าง Variations อย่างเรียบง่ายแทน เพื่อให้ผู้เล่นโฟกัสที่การคอมโบอย่างเต็มที่ ไม่มีอีกแล้วกับการจัด Preset ท่าให้วุ่นวาย อยากเล่นผสม Moverset ตัวไหนกับตัวไหน ก็จัดไป!

4. ท่า “Fatality” สุดโหดเหี้ยมเลือดสาด ที่มีให้เลือกใช้มากขึ้นแบบเท่าตัว!

โหด เลือดสาด กระชากสันหลัง ทะลวงหัวใจ ควักเครื่องในมาดูเล่น ถือเป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมซีรีส์นี้นะครับ และในภาคล่าสุดนี้ ก็ย่อมต้องมาพร้อมกับวิชวลโหด ๆ ไม่ให้เสียชื่อที่เป็นถึงเกมที่ให้กำเนิดการจัดเรตติ้งเกม ESRB ในอเมริกาขึ้นมาอยู่แล้ว ในภาคนี้เราจะได้พบกับท่าปลิดชีพศัตรู หรือ Fatality มากมายหลายรูปแบบ ด้วยจุดเด่นของระบบ Kameo Fighter ทำให้เกมมีทั้ง Fatality แบบของตัวเล่นหลัก, ของตัว Kameo รวมถึงการประสาน Fatality คู่กันของทั้งสองตัว ซึ่งแต่ละแบบล้วนไม่ซ้ำกันเลย

5. คุณภาพกราฟิกที่สวยงามและสมจริง สมกับการเป็นเกม Next-Gen

เช่นเดียวกับใน 2 ภาคก่อนหน้าครับ Mortal Kombat 1 ยังคงเลือกใช้งาน Unreal Engine เป็นเอนจินเกมหลักในการพัฒนา ซึ่งคราวนี้ได้หันมาเลือกใช้ Unreal Engine 4 (MK11 ใช้ Unreal Engine 3) ซึ่งใน MK11 ภาพของเกมก็ดูสวยงามสมจริงมาก ๆ แล้ว มาคราวนี้ เมื่อได้เอนจินเกมที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้เกมดูออกมาสวยงามกว่าเดิมแบบเท่าตัว ด้วยรายละเอียดของภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้นในทุก ๆ ดีเทล โดยเฉพาะฉากการใช้ท่า X-Ray จนเห็นกระดูก หรือ Krushing Blow เราจะได้เห็น texture ของกระดูกที่ค่อย ๆ แตกละเอียดกันเลย

ปี 2023 ถือเป็นปีที่เต็มอิ่มแบบสุด ๆ ครับสำหรับคอเกมต่อสู้ เพราะนี่คือปีที่เราจะได้เล่นภาคใหม่ของเกมต่อสู้ระดับตำนานถึง 3 เกมในปีเดียว นอกจาก Street Fighter VI ที่วางจำหน่ายไปแล้ว ก็ยังมี Tekken 8 ด้วย ที่รอต่อคิวตามกันมาแบบติด ๆ และแน่นอน Mortal Kombat 1 ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นแต่อย่างใด เพราะนี่คืออีกหนึ่งเกมที่กำลังจะกลับมาสร้างตำนานใหม่ในปีนี้เช่นกัน ต่อจากนี้เกมจะมีข้อมูลใหม่ ๆ ให้ต้องอัพเดทกันไปอีกยาว ๆ แน่นอนครับ ทั้ง เนื้อเรื่อง ตัวละคร และระบบการเล่นต่าง ๆ จนกว่าจะถึงวันวางจำหน่ายเกม ภายในวันที่ “19 กันยายน 2023” นี้ (สามารถ Pre-Order เกมได้ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป) คอเกมต่อสู้สายโหด อย่าลืมปักหมุดปฏิทินกันเอาไว้ให้ดี!