ASUS ROG Ally "ครั้งแรก" ของคนไทยกับการเปิดประสบการณ์ใหม่ในวงการ PC Handheld

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่มี Steam Deck อยู่ ณ ตอนนี้ หรือยังไม่มีแต่สนใจ น่าจะเคยได้ยินชื่อของ ROG Ally คู่แข่งที่หลายคนบอกว่า จะมา “เขย่าบัลลังก์” ของ Steam Deck ในฐานะของ PC Handheld หลังจากที่ผ่านมา 1 ปีแล้ว ยังไม่มีใครทำได้มาก่อน

ความเป็นไปได้ในการทลายบัลลังก์มีอยู่ค่อนข้างสูง เนื่องจากในปีที่ผ่านมา Steam Deck ไม่มีคู่ต่อสู้ที่แบกน้ำหนักเท่ากันเลย ส่วนมากจะมีก็แต่บริษัทระดับเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถทำราคามาสู้ได้ แม้เครื่องจะมีประสิทธิภาพดีกว่า แต่ราคาพุ่งสูงจนเกินความเป็นจริงไปมากโข

การมาของ ROG Ally จาก ASUS จึงเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร เนื่องจากประสิทธิภาพของมันดีกว่าทุก PC Handheld ที่มีในโลกตอนนี้ อีกทั้งยังมีศูนย์ให้บริการในไทย แถมราคายัง “น่าทึ่ง” อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ มาดูรายละเอียดกันใน พรีวิว ASUS ROG Ally จาก Happyconsole

ครั้งแรกกับ “Windows 11” ในมือคุณ

ถ้าไม่นับ Surface หรือเหล่าแท็ปเล็ตต่าง ๆ ASUS ROG Ally นับว่าเป็นอุปกรณ์ประเภท UMPC แรกในไทยอย่างเป็นทางการ ที่รองรับ Windows 11 ระบบปฏิบัติการที่เราใช้กันอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งความได้เปรียบของมันเมื่อเทียบกับ Steam Deck ถือว่ามากโขจนนับไม่ได้

Steam Deck ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเอง คือ SteamOS ทั้งหมดตั้งอยู่ในระบบของ Linux ทำให้มีข้อจำกัดมากมายเกิดขึ้น ข้อแรกคือความยุ่งยากในการเล่นเกมบางเกม จึงต้องมีการเสริมโปรตอนเข้าไปทำให้เล่นได้ดีขึ้น ข้อที่สองคือ Anti-Cheat ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ปิดประตูการเล่นเกมสุดฮิตอย่าง Fortnite หรือ FIFA ไปได้เลยฃ

การที่ ROG Ally ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 “พูดกันง่าย ๆ” เหมือนคุณได้คอมพิวเตอร์พกพาที่มีจอมาใช้งาน คุณสามารถต่อเมาส์ คีย์บอร์ด เล่นเกมได้ตามปกติ เหมือนคุณเล่นบนคอมพิวเตอร์ คุณจะใช้ Photoshop ทำงานก็ได้ หรือจะใช้ Autocat เขียนแปลนก็ทำได้อีก

และถ้าใครที่เป็นวัยรุ่นตามเทรนด์ “ชอบทำเพลง” อุปกรณ์นี้จะโดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น เพราะคุณสามารถอัดเพลง มิกซ์เพลง ได้ทุกที่บนโลก โดยไม่ต้องอาศัยทำในสตูดิโอที่บ้านเลยด้วยซ้ำ เห็นหรือยังว่าแค่เปลี่ยนมาใช้ Windows 11 มันโดดเด่นขนาดไหนในเครื่องพกพา

แรงกว่า โหดกว่า ดีกว่า ทุกมิติ

อีกเรื่องที่นับเป็นจุดเด่นของ ASUS ROG Ally คือเรื่องฮาร์ดแวร์ ตัวเครื่องใช้ CPU และ GPU แบบคัสตอม ที่เหนือกว่า Steam Deck ราวสองเท่าด้วยกัน และเมื่อรวมกับการใช้ Windows 11 ตัวเครื่องสามารถเร่งค่า TDP ให้สูงกว่า Steam Deck ได้ถึงสองเท่าด้วยกัน ทำให้มันแรงกว่า Steam Deck มากโข

ความแรงที่มากกว่า เท่ากับว่า “มันเล่นได้นานกว่า” ด้วย เพราะถ้าคุณเล่นเกมใน Steam Deck ในระดับ 15w เพราะอยากได้ 60FPS การเล่นบน ASUS ROG Ally อาจใช้ค่า TDP เพียง 8w เท่านั้นเพื่อเล่นเกมให้ได้ในระดับเดียวกับ Steam Deck และเช่นกัน เกมไหนที่ Steam Deck ไม่สามารถที่จะเล่นได้อย่างราบรื่นเพราะติดค่า TDP ที่ 15w ROG Ally สามารถทิ้งห่างข้อจำกัดนี้ได้ด้วยการเปิด TDP สูงสุดถึง 30w แต่นั่นก็หมายถึงแบตเตอรี่ที่หมดเร็วกว่าเช่นกัน

หน้าจอและ Resolution ของ ROG Ally เป็นสิ่งที่เหนือกว่า Steam Deck เช่นกัน ด้วยหน้าจอ FULL HD แบบ Landscape นอกจากจะคมชัดแล้ว คุณยังสามารถเล่นเกมเก่าเก็บได้โดยไม่มีปัญหาเรื่อง Resolution อีกทั้งคุณยังสามารถเล่นเกมในระดับ 120FPS ได้โดยไม่เสียโอกาส เนื่องจากจอของ ROG Ally เป็นจอแบบ 120Hz นั่นเอง

อุปกรณ์เสริมเต็มสูบ การ์ดจอนอกต่อง่าย RTX 4090 ก็มา

อีกเรื่องที่ ROG Ally ถือว่า “ไปสุด” ในรุ่นคือเรื่องของอุปกรณ์เสริม โดยเฉพาะ eGPU หรือการ์ดจอแยก ที่เขาเน้นเป็นพิเศษ แม้จะเป็นการต่อได้เฉพาะอุปกรณ์ของ ROG เท่านั้น ไม่สามารถต่ออุปกรณ์แบบ 3rd Party ได้ แต่ถ้าใครมีเงินเหลือ เน้นด้านประสิทธิภาพเป็นสำคัญ การแบก RTX 4090 ขนาดเล็กไปกับคุณได้ทุก ๆ ที่ก็น่าสนใจ

ซึ่งถ้าจะวัดตรงนี้กับ Steam Deck บอกเลยว่า ROG Ally ชนะขาด เนื่องจาก Steam Deck เน้นขายเป็น Stand Alone และแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อ eGPU ทำให้ประสิทธิภาพของ ROG Ally ที่กินขาดไปแล้ว กินขาดเข้าไปอีกเมื่อมี eGPU

นอกจากนี้ยังมีคอนโทรลเลอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อีกมากมายตามสไตล์ของ ROG ถ้าใครสนใจบอกเลยว่าต้องรอติดตามหลังเครื่องวางจำหน่าย

ราคาแบบนี้ “พร้อม” เป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างแท้จริง

แม้จะไม่เปิดราคามาให้เห็นในไทย แต่จากการรายงาน ราคาจะไม่ถึงสามหมื่นอย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าจะดูแพงในฐานะ UMPC ซึ่งถ้าเทียบดี ๆ จากความเป็นไปได้ในเรื่องของฮาร์ดแวร์ ราคานี้ถือว่า “ไม่แพง” และทำมาแข่งกับ Steam Deck อย่างชัดเจน เนื่องจากเราปฏิเสธไม่ได้ว่า Steam Deck ไม่ได้รับการสนับสนุนในไทย การใช้ประกันยังคงต้องส่งไปประเทศอื่น รวมถึงเราไม่มีดีลเลอร์อย่างเป็นทางการด้วย

แต่ ASUS ROG นั้นขายสินค้าในไทยอยู่แล้ว มีศูนย์บริการที่แน่นอน ทำให้ค่อนข้างไว้ใจได้ในการซ่อม เมื่อรวมกับคุณลักษณะต่าง ๆ เราคิดว่านี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ดี ในวงการ PC Handheld ของประเทศไทย