Diablo IV ทวงบัลลังก์เจ้าแห่งเกม Action RPG กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าภาคก่อน

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ปี 2023 ถือเป็นปีที่มีเกมฟอร์มยักษ์ออกมาให้เราได้เล่นกันเยอะมาก ๆ หลายเกมก็เป็นเกมใหม่ หลายเกมก็เป็นภาคต่อที่คนทั้งโลกรอคอย เหมือนอย่างเช่นเกมนี้ กับ Diablo IV การมาถึงอย่างเป็นทางการของภาคที่ 4 สำหรับเกม Action RPG ระดับตำนานจาก Activision Blizzard ที่หลังจากเปิดตัวกันมาตั้งแต่ปี 2019 เรากำลังจะได้สัมผัสมันจริง ๆ แล้วกับ Diablo IV แต่ภาคนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน

เปิดตำนานล่าจ้าวอสูรครั้งใหม่

หลังจากการทำลายล้างของ Black Soulstone และการพ่ายแพ้ของ Prime Evil กับความล่มสลายของ Malthael นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนแห่ง Sanctuary กำลังพยายามดิ้นรนผ่านช่วงเวลาแห่งความมืดมน วิถีชีวิตค่อย ๆ ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และภัยคุกคามก็ยังคงอยู่ เนื้อหาในเกมภาคนี้จะเป็นช่วงเวลา 50 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Diablo III: Reaper of Souls หลังจากที่ผู้คนนับล้านโดน High Heavens สังหาร เนื้อหาในภาคนี้จะมีอารมณ์และบรรยากาศที่คล้ายกับ Diablo II และเป้าหมายของเราคือ Lilith ลูกสาวของ Mephisto โดยมีธีมหลักของเกมคือ “ความเกลียดชัง”

ใครที่ติดตามเนื้อหาของเกมสามภาคแรกมาอยู่แล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะให้ปล่อยผ่านภาคนี้ เพราะเนื้อเรื่องที่น่าจะจัดเต็ม ดุเดือด เข้มข้นมากยิ่งขึ้น แค่เห็นธีมเนื้อหาก็คิดว่าภาคนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ แต่จะมีอะไรเซอร์ไพรส์พลิกผันไปจากเดิมหรือไม่ก็คงต้องรอกันในช่วงที่เกมออกวางจำหน่าย

5 อาชีพ 5 ทางเลือก พร้อมให้ตอบสนองทุกความต้องการของผู้เล่น

ใน Diablo IV จะมีให้เล่นทั้งหมด 5 อาชีพหลัก ๆ เริ่มจาก Druid ที่สามารถควบคุมเวทมนตร์แห่งดินและพายุได้ นอกจากนั้นยังสามารถเปลี่ยนร่างเป็นหมีคลั่งและหมาป่าได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มสถานะพิเศษให้ชั่วคราว / จอมพลัง Barbarian ที่มาพร้อมพละกำลังมหาศาล และอาวุธขนาดยักษ์ ทำให้กำหนดทักษะจากอาวุธและระบบ Arsenal ได้ / จอมเวท Sorceress ที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์สายฟ้าและน้ำแข็ง

และยิงศัตรูจากระยะไกล และใช้ระบบใหม่อย่าง Enchantment ได้ด้วย / Rogue ที่มีความสามารถในการลอบเร้น และเชี่ยวชาญการวางกับดัก และการใช้ธนู และยังมีความเชี่ยวชาญแบบพิเศษอย่าง Shadow Realm / Necromancer ที่สามารถปลุกชีพคนตายให้มาเป็นพวกพ้อง ใช้ซากศพเป็นกองกำลังต่อสู้

แม้เราจะเลือกอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ในเกมนี้เราสามารถปรับแต่งและสร้างตัวละครของเราขึ้นมาเองได้ทั้งหมด ตั้งแต่ชุดเกราะที่มีเอกลักษณ์หลายร้อยชิ้น จนถึงลักษณะใบหน้าและร่างกายที่มีรายละเอียดและสีอีกมากมาย อยากให้ตัวละครของคุณเป็นแบบไหน ก็จัดได้ตามสะดวก

คอนเทนต์จัดเต็ม เนื้อเรื่องยิงยาว และ End Game Content อีกเพียบ

ในภาคนี้จะเน้นกลไกและระบบใหม่ ๆ ที่ผู้เล่นจะได้ตอบโต้กับโลก Open World ของตัวเกม เช่น กิจกรรมในพื้นที่สาธารณะที่เราจะได้ต่อสู้กับศัตรูขนาดใหญ่ไปพร้อม ๆ กับผู้เล่นคนอื่นในพื้นที่่ ระบบคลาสและอาชีพต่าง ๆ ล้วนมีเอกลักษณ์และบทบาทหน้าที่อยู่ในระดับที่สูงมาก หากอยากลุยแบบสะดวกสบาย และง่ายขึ้นก็อาจจะต้องมีครบทุกสายอาชีพในปาร์ตี้เดียวกัน

นอกจากนั้นเรายังสามารถกำหนด Skill Tree ของเราได้เองแบบเลเวลต่อเลเวล มันมีความหมายและจะทำให้ตัวละครเก่งขึ้นจริง ๆ และด้วยความเป็นเกม Action RPG การตามหาไอเทมเกรดสีดี ๆ ก็เป็นหัวใจสำคัญ โดยภาคนี้มันจะมีความละเอียดและความลึกที่อยู่ตรงกลางระหว่างเกมภาค 2 และภาค 3 มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของอาวุธและลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นเกราะป้องกันจะมีฟีเจอร์อื่น ๆ เสริมอีกนอกจากพลังป้องกัน เป็นต้น

โลก Open World ภายในเกมนี้ จะมีถึง 5 ภูมิภาค และแต่ละภูมิภาคก็เต็มไปด้วยอันตรายของตัวเอง มีหลายเส้นทาง มีหลายพื้นที่ให้ค้นหา มันมีทัศนียภาพและภูมิประเทศที่ชวนให้ผู้เล่นออกผจญภัยอย่างยิ่ง

ระทึกด้วยโหมด PvP แบบตายแล้วตายเลย

เอาใจสายฮาร์ดคอร์กับคนที่ชื่นชอบการ PvP และเป็นการ PvP ที่โหดมาก เพราะในเกมนี้เราจะได้ PvP แบบ Permadeath หรือตายแล้ว ตายเลย ในกรณีที่ผู้เล่นเลือกโหมด Hardcore ความตายหมายถึงจุดจบสำหรับตัวละครตัวนั้น ๆ และคุณต้องสร้างตัวละครใหม่เท่านั้น

ลองคิดดูว่าถ้าเล่นโหมดนี้ ลำพังศัตรูก็โหดอยู่แล้ว เจอผู้เล่นด้วยกันเข้าไปอีก จะตึงมือขนาดไหน ใครอยากท้าทายฝีมือ เจอกันแน่กับโหมด Hardcore และ Permadeath

Diablo IV เตรียมวางจำหน่าย 2 มิถุนายนนี้ Happyconsole เปิดให้สั่งจองได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป