Need For Speed Unbound การกลับมาอีกครั้งของเกมซิ่งรถที่แปลก และแหวกแนวไปจากทุกภาค
2 ปีที่ผ่านมา
โดย เจ้าของร้าน
Need For Speed หรือชื่อนี้น่าจะการันตีได้ว่าเป็นอีกแฟรนไชส์แข่งรถที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายมหาศาลจากค่าย EA ตัวเกมนั้นห่างหายจากการมีภาคใหม่ออกมาตั้งแต่ปี 2019 เพราะ EA ได้โยกย้ายทีมพัฒนาเกมนี้ไปช่วยทำ Battlefield 2042 แต่หลังจากเสร็จสิ้นงานแล้วก็ถึงเวลาแล้วที่ทีมทำเกมนี้จะกลับมาสานต่อ Need For Speed กันอีกครั้งกับทีม Criterion Games ที่จะมาพาซีรีส์นี้ไปสู่แนวทางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนกับภาคล่าสุดหลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 ปี กับ Need For Speed Unbound และภาคนี้มันมีอะไรดี มาดูกัน
กลับสู่เกมการเล่น Night Street Racing แข่งรถผิดกฎหมายยามค่ำคืน
เมื่อโลกทั้งใบคือผืนผ้าใบของคุณ งานนี้ผู้เล่นจะต้องพิสูจน์ตนเองว่ามีคุณสมบัติพอที่จะต่อสู้และโค่นล้มกับ The Grand สุดยอดนักซิ่งมือฉกาจแห่งเมือง Lakeshore ในการแข่งขันอันดุเดือดที่มีความยาวกว่า 4 สัปดาห์ แน่นอนว่าระหว่างนี้คุณจะต้องหาเงินมาอัปเกรดรถ เข้าแข่งขันการแข่งคัดเลือกประจำสัปดาห์ และนอกจากเหล่านักซิ่งตีนผีมากฝีมือแล้ว ศัตรูตัวสำคัญของการแข่งขันนอกกฎหมายจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากตำรวจ
งานนี้ถึงเวลาเก็บเงิน ซื้อรถ ปรับจูนรถของคุณให้เข้ากับแต่ละสนามการแข่งขัน แล้วออกไปซิ่งเฉิดฉายบนถนนด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร และยังมีชุดแต่งกายสุดพิเศษสำหรับตัวละคร และเพลงประกอบที่ภาคนี้จัดเต็ม นำทีมโดย ASAP Rocky และ AWGE งานนี้ Need For Speed กลับมาแบบ Real Comeback ของจริงก็ว่าได้ โดยเฉพาะธีมการแข่งขันที่เป็น Night Street Racing
Art Style ใหม่ เมื่อการ์ตูนผสมผสานเข้ากับแนวสมจริง มิติใหม่ของการนำเสนอ
สิ่งที่ทำให้ Need For Speed ภาคนี้มีความแตกต่างไปจากเกมทั่วไปก็คือ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอให้มี Art Style ที่ผสมผสานกันระหว่างสองแนวทาง นั่นคือแนวการ์ตูนและแนวสมจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟรนไชส์ Need For Speed ไม่เคยทำมาก่อน โดยตัวละคร และเอฟเฟกต์รถบางช่วงจะมีการนำเสนอแบบลายเส้นการ์ตูนอนิเมชั่น ส่วนงานศิลปะส่วนอื่นหรือโมเดลรถ จะยังคงใช้การนำเสนอแบบสมจริง
แน่นอนว่า หลังจากเปิดตัวนั้นก็มีกระแสตอบรับทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ เพราะมันหลุดกรอบความเป็น Need For Speed ไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นโอกาสและการทดลองอะไรใหม่ ๆ ของเกมนี้ ไม่แน่ว่ามันอาจจะพาตัวเกมไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้ และที่สำคัญคือ การแสดงผลเหล่านี้สามารถตั้งค่าเปิด-ปิดได้ตามสะดวก ไม่ชอบก็ปิดได้เลย
ขึ้นชื่อว่าเกมขับรถ หนึ่งในระบบที่เป็นหัวใจสำคัญของเกมก็ต้องเป็นการแต่งรถ และภาคนี้ ผู้เล่นยังสามารถปรับแต่งรถได้แบบจัดเต็ม และถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดหายไปไม่ได้โดยเด็ดขาดสำหรับ Need For Speed โดยระบบนี้จะยังคงกลับมาในภาคนี้ และเพิ่มความละเอียดและความหลากหลายให้มากขึ้นกว่าภาคก่อนหน้า
ครบเครื่องทั้งโหมด Single Player / Online และระบบภายในเกม
ในภาคนี้ ใครไม่อยากไปซิ่งแข่งกับชาวบ้านก็ยังมีระบบ Single Player ให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อหาของตัวผู้เล่นที่จะต้องไต่เต้าจากนักแข่งมือใหม่ไปสู่มือโปรของการแข่งขัน Street Racing และหารถที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา ส่วนโหมดออนไลน์นั้นก็สามารถไปซิ่งแข่งกับชาวบ้าน หรือเล่นกับเพื่อนแบบสนุก ๆ ได้ รองรับผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม