CRISIS CORE: Final Fantasy VII Reunion เรื่องราวของแซค กับการกลับมา "ยิ่งกว่ารีมาสเตอร์"

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ชื่อ Final Fantasy หากใครได้ยินชื่อนี้ หลายคนอาจจะมีภาคที่ชอบและไม่ชอบแตกต่างกันไป แต่น้อยคนเหลือเกินที่จะบอกว่าไม่รู้จักภาคในตำนานอย่างภาค 7 ที่มีทั้งภาคต้นฉบับที่ขึ้นหิ้ง และภาค Integrade หรือ Remake ที่ยังคงได้ใจแฟน ๆ อยู่เสมอ และหนึ่งในตัวละครที่หลายคนโปรดปราน อย่าง Zack Fair เอง ก็เคยมีบทบาทโดดเด่นเป็นของตัวเองในเนื้อหาภาคก่อนหน้าอย่าง CRISIS CORE อีกด้วย และวันนี้ CRISIS CORE กลับมาแล้ว แถม Remaster จนดูดีในะรดับ Remake ตามรอยภาคหลักไปติด ๆ กันเลยทีเดียว กับ Reunion Version

Zack Fair อีกหนึ่งตัวละครที่แฟน ๆ ชื่นชอบจากภาค 7

สำหรับ CRISIS CORE นั้นเป็นภาค Prequel หรือภาคก่อนหน้า Final Fantasy VII เกมต้นฉบับนั้นออกมาในปี 1997 ว่าด้วยเรื่องราวของ Zack Fair สมาชิกหนุ่มขององค์กรทหาร Soldier ที่ได้รับภารกิจให้ไปตามหา Genesis Rhapsodos ที่หายตัวไป แล้ว Zack ก็มาพบกับที่มาของ Genesis และโครงการ Project G รวมไปถึงความลับที่เกี่ยวข้องกับทางการทหารระดับสูง

ตัวเกมออริจินัลนั้น มียอดขายที่น่าประทับใจมาก โดยขายไปได้กว่า 2 ล้านชุดทั่วโลก แถมแม้ว่าจะเป็นเกมภาคก่อนหน้า แต่กระแสตอบรับในด้านการเล่าเรื่องและเนื้อหาก็เป็นไปในทิศทางที่ดีด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจที่ภาค 7 Remake ที่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ทำให้ทาง Square Enix ตัดสินใจเข็นภาคนี้ออกมาขายด้วย แม้จะจะทิ้งห่างจากเกมหลักมานานอยู่ก็ตาม

ทีมงานย้ำ คือรีมาสเตอร์ ไม่ใช่รีเมค

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีการเปิดตัว CRISIS CORE: Final Fantasy VII Reunion นั้น เกิดคำถามตามมามากมาย ด้วยความที่ตัวเกมัน้น ยกระดับทางด้านกราฟิก จนทำให้แฟนเกมแยกไม่ออกว่าสรุปแล้วมันคือการ Remake เต็มรูปแบบหรือไม่ ซึ่งทางทีมงานก็ตัดสินใจออกมาแถลงกว่า เป็นการ Remaster ทำภาพและกราฟิกให้ดูดีขึ้นเฉย ๆ

สาเหตุที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันนั้น เพราะว่าเมื่อเปรียบเทียบกันให้ดีแล้ว ภาพของเกมค่อนข้างจะยกระดับแบบเห็นภาพชัดเจนมาก ๆ ชนิดที่ว่า ถ้าเทียบกับภาค Final Fantasy Type-0 ที่เคยมีการ Remaster ด้วยแล้ว กราฟิกมันต่างกันมาก จนรู้สึกว่า CRISIS CORE คือการ Remake กันเลยทีเดียว หลัก ๆ แล้วทีมงานเผยว่า มีการใช้อนิเมชั่นคัตซีนแบบเดิม เพิ่มเฟรมเรทให้ลื่นไหลขึ้น ส่วนโมเดลก็จะใช้โมเดลเดียวกันกับภาค 7 Remake และหน้าตา UX / UI แม้จะถูกปรับปรุงแต่ก็ยังรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ งานดีมีคุณภาพขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่แฟน ๆ ถกเถียงกันว่าสรุปแล้วมันคือรีมาสเตอร์ หรือรีเมคกันแน่

การ “ยกเครื่องครั้งใหญ่” ของภาค CRISIS CORE

อย่างที่บอก ว่ามันไม่ใช่การรีเมค แต่มันคือการยกเครื่องครั้งใหญ่ แต่คงรูปแบบเดิมเอาไว้ อย่างระบบ DMW นั้นก็ยังคงเหมือนกับบนเครื่อง PSP ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการยกเครื่องครั้งนี้ยังมีการปรับปรุงการดำเนินเรื่องราวให้มีความละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่นบทบาทเกี่ยวกับ Shinra Company ความสัมพันธ์กับตัวละครอย่าง Sephiroth และ Aerith เองจะถกเสริมเติมรายละเอียดเข้าไป ส่วนหนึ่งเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาภาค 7 Remake ด้วย

ผู้กำกับเกมภาค Remaster เผยว่า การเล่าเรื่องของเกมภาคนี้ มันเหมือนกับการหยิบเอาชะตากรรมของ Zack มาเล่าใหม่ และเขาชื่นชอบอย่างมากที่จะได้รังสรรค์เรื่องราวของ Zack ผ่าน Buster Sword และทิ้งอะไรบางอย่างเอาไว้ให้เกมภาคหลักได้ดำเนินเรื่องต่อไป รวมไปถึงเขียนเรื่องราวเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงให้กับเข้า Ever Crisis ที่เป็นเวอร์ชั่นเกมมือถือด้วย

ในด้านของระบบการต่อสู้ อย่างที่เรารู้กันดีว่าแม้ภาค 7 Remake จะถูกเปลี่ยนไปเป็นเกม Action RPG เต็มรูปแบบ แต่ก็มีทางเลือกให้คนที่ชื่นชอบแบบเก่าได้สัมผัสความคลาสสิค ภาคนี้เองก็เช่นกัน แต่จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไปว่าจะเปลี่ยนมากหรือน้อยแค่ไหน

ท้ายที่สุดนี้ แม้ชะตากรรมของ Zack Fair จะถูกกำหนดไว้แล้ว แต่เชื่อว่าแฟน ๆ ก็ยังคงอยากเห็นการเล่าเรื่องฉบับใหม่ ในกราฟิกที่สวยงามขึ้น มีระบบเกมที่ทันสมัย เหมือนกัมเกบุคปัจจุบันมากขึ้น เพราะงั้นก็เก็บเงินรอกันได้ กับ CRISIS CORE Final Fantasy VII: Reunion เตรียมวางจำหน่าย 13 ธันวาคมนี้ บนเครื่อง PC และ Console

SWITCH- Crisis Core Final Fantasy VII - Reunion ราคา 1,690 บาท

PS4- Crisis Core Final Fantasy VII - Reunion 1,690 บาท

PS5- Crisis Core Final Fantasy VII - Reunion 1,690 บาท