The Dark Pictures Anthology: The Devil In Me คฤหาสน์คลั่งฆาตกรโหด

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ใครที่เป็นแฟนเกมสยองขวัญจะรู้ว่า นับตั้งแต่ปี 2019 เราก็มีเกมสยองขวัญออกมาให้ได้เล่นกันทุกปี จนแทบจะเป็นซีรีส์ไม่ต่างอะไรกับทีวีซีรีส์ของต่างประเทศที่มักจะออกมาปีละ 1 ซีซั่น แต่เกมนี้มีออกมาให้เราได้เล่นกันอย่างต่อเนื่องปีละ 1 เกม ใครที่ไม่ทราบ ต้องบอกว่า ซีรีส์ The Dark Pictures นั้น เขามีแผนจะทำออกมาเป็น Anthology หรือ 4 ภาค นับตั้งแต่ปี 2019 เรามีทั้ง Man of Medan / Little Hope / House of Ashes และนี่คือภาคสุดท้ายของซีซั่นที่ 1 อย่าง The Devil in Me

รู้จักผู้อยู่เบื้องหลังผลงานซีรีส์ Interactive สุดล้ำ

The Dark Pictures Anthology เป็นผลงานที่คนเล่นเกมอาจจะต้องรู้จักกันดี หากติดตามข่าวสารวงการเกม นั่นคือ Supermassive Games สำหรับสตูดิโอนี้ จะบอกว่าเป็นสตูดิโอระดับกลาง ๆ ก็ว่าได้ เพราะเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 นี้ และตัวผู้ก่อตั้งเองก็เคยทำงานให้กับค่ายเกมชื่อดังอย่าง Electronic Arts (EA) มาก่อนด้วย และเมื่อมาก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง พวกเขาก็ได้รับการอุปถัมภ์จาก Sony ให้เข้ามาเป็นสตูดิโอเกม Third Party คอยทำงานให้กับเกมต่าง ๆ ในเครือของ Sony

เริ่มแรก พวกเขาได้งานเล็ก ๆ อย่างส่วนเสริมของ Little Big Planet อันแสนน่ารักมุ้งมิ้ง ขัดกับแนวเกมที่พวกเขาทำกันอยู่ในปัจจุบันอย่างมาก และพวกเขายังพัฒนาเกมสำหรับ PlayStation Move อย่าง Sackboy’s Prehistoric Moves และ Start the Party ! ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล

และพวกเขาก็เริ่มอยากจะฉีกแนวใหม่ ๆ ด้วยการหยิบเอา Doctor Who ซีรีส์ชื่อดังของ BBC มาสร้างเป็นเกม Doctor Who: The Eternity Clock แรกเริ่มเดิมที พวกเขาตั้งใจจะให้มันเป็นเกมไตรภาค แต่ความฝันก็จบลง เพราะกระแสตอบรับเกมไม่ดีพอ ภาคต่อทั้งหลายจึงถูกยกเลิก จนกระทั่งผลงานที่ทำให้พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตกเลยก็คือ Until Dawn

สุดยอดเกมสยองขวัญขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องที่เป็นเกมขึ้นชื่อของ PS4

Until Dawn แทบจะเป็นผลงานแจ้งเกิดที่ทำให้ Supermassive กลายเป็นที่รู้จัก โดยแผนตอนแรกมันถูกสร้างขึ้นมาเป็นเกมที่รองรับ PlayStation Move แต่สุดท้ายก็ถูกยกเลิกและเปลี่ยนแผน และกลายเป็นเกมแบบ Interactive ที่นำเสนอประเด็นความสยองขวัญและการเอาชีวิตรอดขึ้นมาแทน และมันประสบความสำเร็จอย่างมาก จนแม้กระทั่ง Sony เองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะปังขนาดนั้น

Until Dawn เป็นเกมแบบ Interactive ที่เราจะได้เน้นการเสพบรรยากาศ เนื้อเรื่อง คัทซีน แต่แซมเกมเพลย์เข้ามาเป็นบางช่วง เช่น Quick Time Event การเลือกคำถาม คำตอบที่จะเป็นตัวตัดสินชะตากรรมของตัวละครและเนื้อเรื่องต่าง ๆ และจุดขายเลยคือระบบ Butterfly Effect ที่การเลือกของผู้เล่นจะส่งผลกระทบต่อทั้งจักรวาลเกม ตั้งแต่การเลือกหนังสือ ไปจนถึงตัวเลือกทางศีลธรรม และถ้าเราตัดสินใจไม่ทันในเวลาที่กำหนดก็อาจจะปลดล็อคทางเลือกใหม่ ๆ ได้อีก ทำให้เกมนี้มี Replayable หรือคุณค่าในการเล่นซ้ำสูงมาก ถ้าคุณไม่เบื่อไปซะก่อน

และด้วยประสบการณ์การทำเกม Until Dawn ที่ยอดเยี่ยมจนทุกคนต้องยกนิ้วให้ ทำให้พวกเขาตัดสินใจเดินหน้าพัฒนาเกมที่มีรูปแบบเหมือนซีรีส์ และนั่นคือ The Dark Pictures Anthology นั่นเอง

ปิดซีซั่นหนึ่ง ด้วยการเข้าสู่คฤหาสน์ของฆาตกรโฉด พร้อมยกระดับเกมเพลย์ให้มีความเป็นเกมมากขึ้น

ตามปกติแล้ว ซีรีส์ The Dark Pictures สามภาคที่ผ่านมา จะมีส่วนผสมของความเป็นภาพยนตร์มากกว่าที่จะเป็นเกม เราต้องคอยอ่านเนื้อเรื่อง เก็บไฟล์ข้อมูล ลำดับเหตุการณ์ เลือกการถามตอบให้ดี แต่ใน The Devil in Me นี้ จะเป็นการยกระดับ ให้มันมีความเป็นเกมมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากสามภาคก่อนหน้า หลายคนอาจจะหลับจบสนิทแทนจะได้เล่นเกมให้จบ

เรื่องราวในภาคนี้จะเกี่ยวข้องกับทีมถ่ายทำสารคดีที่หลงเข้าไปติดอยู่ในคฤหาสน์ที่อาจจะเป็นของฆาตกรโรคจิตสุดคลั่ง และทีมถ่ายทำชุดนี้ต้องเอาตัวรอดให้ได้ โดยทาง BANDAI Namco เผยว่า ในภาคนี้จะมี 4 ฟีเจอร์หลัก ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และจะเป็นฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยให้คุณเอาตัวรอดได้ เริ่มจาก Expanded Exploration ในเกมภาคนี้ผู้เล่นจะได้ออกสำรวจเยอะกว่าทุกภาคที่ผ่านมา และจะมีระบบ Interactive ตอบโต้กับฉากและสิ่งของต่าง ๆ ที่เยอะมากขึ้น ในภาคนี้เราจะปีนวัตถุสิ่งของ ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ได้ บางที่อาจจะห้องเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ และยังสามารถผลักและดึงวัตถุต่าง ๆ ได้

ต่อมาเมื่อสำรวจได้มากขึ้น เราก็อาจจะเก็บฟุตเทจไปใช้ในสารคดีของเราได้มากขึ้น ถ้าไม่กลัวตาย ทำให้เกมเพลย์ของภาคนี้ จะมีชั่วโมงการเล่นที่มากขึ้น จากภาคก่อนหน้า คุณอาจจะใช้เวลาเล่นจบ 5-6 ชั่วโมง แต่ภาคนี้ยืนยันแล้วว่า ยังไงก็ 7 ชั่วโมงขึ้นไป แต่จะจบแบบที่ทุกคนรอดหมดหรือไม่ นั่นเป็นหน้าที่คุณ

ภาคนี้ผู้เล่นแต่ละคนจะมาพร้อมช่องเก็บของ และอุปกรณ์มากมายให้ได้เก็บตามฉาก ตัวละครแต่ละตัวอาจจะมีความสามารถที่เหมาะกับบางสถานการณ์ เช่นต่อวงจรไฟฟ้าได้ ปลดล็อคประตูหรือลิ้นชักได้ หรือกล้องที่ใช้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ได้ ถ้าอยากเล่นแบบสมบูรณ์ จำไว้ว่ารักษาชีวิตทุกคนให้ดี และนี่คือคฤหาสน์ของฆาตกรโรคจิต สิ่งที่คุณหนีไม่พ้นคือกับดัก ภาคนี้จงระวังกับดักต่าง ๆ ไว้ให้ดี ถ้าคุณไม่ฉลาดพอ แก้ปัญหาไวไม่พอ รับรองว่าทีมถ่ายทำสารคดีชุดนี้จะได้ตกตายภายใต้ฝีมือคุณ