ใกล้จะถึงเดือนตุลาคม เดือนวิปโยคสำหรับกระเป๋าชาวเกมเมอร์อย่างเราเข้าไปทุกที แน่นอนว่าในปีนี้ ก็ยังมีไลน์อัพเกมโหด ๆ ออกมารอให้เราควักกระเป๋าซื้อกันแบบยกโขยงหกโมงเช้ากันอีกเช่นเคย และครั้งนี้สำหรับคนชอบ Nintendo บอกเลยว่าจุกแน่ เพราะเขามากันหนักจริง
เห็นแบบนี้ใครมีเครื่องอยู่ในครอบครองแล้วก็ดีไป ยิ่งมีเครื่องรุ่นใหม่อย่าง “Nintendo Switch OLED” ยิงสนุกกับทุกคอนเทนต์ เพราะความคมชัดของภาพที่ล้ำลึกยิ่งกว่าเทคโนโลยี LCD ในปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครไม่มีเครื่อง Nintendo Switch มาก่อน หรือมีรุ่นอื่น ตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้ว ที่คุณจะต้องเปลี่ยนมาใช้ OLED
ยิ่งตอนนี้จังหวะเหมาะเจาะพอดี เพราะปู่นิน ได้ปล่อยตัวเครื่องลาย Limited Edition ของโมเดล OLED ออกมาเป็นรุ่นแรก ในชื่อ Nintendo Switch OLED Spatoon 3 Edition ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือ ออกแบบลวดลายตามเกม “Splatoon 3” ที่กำลังจะวางจำหน่ายในอนาคตอันใกล้นี้
และตอนนี้เจ้าเครื่อง Nintendo Switch OLED Splatoon 3 Edition ก็อยู่ในมือเรา Happyconsole เป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมารีวิวสั้น ๆ พร้อมพรีวิว Splatoon 3 ไปพร้อม ๆ กัน ว่ามันน่าเล่น น่าจับจองขนาดไหน สำหรับไลน์ลิมิเต็ดตัวแรกของ OLED ไปดูกันเลย
แกะกล่อง
มาเริ่มตั้งแต่กล่องกันเลย Nintendo Switch OLED Splatoon 3 Edition ใส่กล่องกระดาษแข็งทรงตั้งที่ Nintendo ใช้เป็นไซส์มาตรฐานสำหรับ OLED ส่วนตัวเราชอบกล่องแบบนี้มากกว่ากล่องรุ่นปกติ เพราะมันเล็กกว่ากล่องปกติมาก ๆ ด้านนอกสกรีนลวดลาย Spatoon 3 ซึ่งเป็นเกมที่เกี่ยวข้องกับการใช้สี ทำให้สีออกมาค่อนข้างสด เป็นโทนสีฟ้าอมม่วง ผสมสีเหลืองนีออนออกเขียวนิด ๆ เรียกได้ว่าสวยงามของในกล่องก็ยังให้มาแบบมาตรฐานเหมือนเดิม คือตัวเครื่อง Nintendo Switch OLED ด้านหลังสกรีนลาย Splatoon แบบเล่นความลึกของสีดำ, จอยคอนลายลิมิเต็ด เล่นการไล่สี ซึ่งเราไม่ค่อยเจอในจอยคอนปกติเท่าไหร่ ด้านซ้ายจะเป็นสีน้ำเงินไปจนถึงสีม่วง ด้านขวาเป็นสีเหลืองไปจนถึงสีเขียว ทั้งสองด้านมีลาย Splatoon สกรีนไว้อย่างสวยงามในส่วนของ Dock มาเป็นสีขาวสวยทีเดียว สกรีนลาย Splatoon อีกเช่นเคย มีแอบ ๆ ยิงสีแต้มสีเหลืองนีออนไว้เป็นกิมมิคเล็ก ๆ ให้แฟนเกม แน่นอนว่า Dock ตัวนี้สามารถใช้งานได้กับทุก ๆ โมเดล OLED ไม่ว่าจะเป็นลิมิเต็ดหรือปกติ เรียกได้ว่าไม่มีอะไรแตกต่างเลย แค่สวยกว่ามาก ๆ เท่านั้นเอง
ที่เหลือก็จะเป็นพวก Strap ที่เอาไว้ล็อคจอยคอน สายชาร์จ และอุปกรณ์พื้นฐานต่าง ๆ ของ Nintendo Switch OLED ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากรุ่นปกติ ถือว่าครบแต่ไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากนี้
ตัวเครื่อง
หลังจากแกะกล่องเสร็จแล้ว มาดูที่ตัวเครื่องกันก่อน Nintendo Switch OLED Splatoon 3 Edition ยังเป็นเครื่อง Nintendo Switch OLED ขนาดมาตรฐาน คือ 9.5 x 0.55 x 4 นิ้ว หนัก 7.1 ขีด ซึ่งก็เป็นขนาดเดียวกับรุ่น OLED ปกติ ยังคงความใหญ่ และความหนักที่สุดของรุ่นได้อย่างดี แตกต่างแค่เพียงฝาด้านหลังที่เป็นสีเทานั้น มีการเล่นลวดลาย Splatoon โดยใช้สีที่ดำกว่าสีของกรอบ ทำให้มันออกมาเป็นแบบคล้าย ๆ ลายนูน ใส่เคสใสแล้วออกมาค่อนข้างสวยทีเดียว
ในส่วนของจอยคอนถือว่าเซอร์ไพรส์ เพราะเราไม่คิดว่ามันจะสวยขนาดนี้ กับเทคนิคการไล่เสต็ปของสี ด้านซ้ายอย่างที่บอก สีจะไล่ตั้งแต่สีน้ำเงินเข้ม ค่อย ๆ กลืนกลายเป็นสีม่วงที่ออกไปทางแดงนิดนึง สำหรับตัวปุ่มทิศทางของจอยคอนอันนี้ยังเป็นปุ่มแยกอยู่ ซึ่งบางคนที่ชอบเล่นเกมต่อสู้อาจจะคิดว่ามันใช้งานยากไปหน่อย ตรงนี้ก็อาจจะหามาเปลี่ยนได้ แต่บอกเลยว่าเสียดายความสวยแน่ ๆ ส่วนด้านขวาเป็นสีเหลืองนีออน ค่อย ๆ ไล่มาเป็นสีเขียวมินต์นีออน ซึ่งเป็นโทนแบบแจ๊ด ๆ แสบตาทั้งคู่ ถามว่าสวยไหมก็สวย พอมาใช้คู่กันแล้วเข้าคู่สุด ๆ
อุปกรณ์เสริม
สำหรับอุปกรณ์เสริม อย่างที่เราบอกไปข้างต้น เขาให้ Dock มาพร้อมกับ Strap สองข้าง และ Adapter มาตรฐานมาหนึ่งอันสิ่งที่ต้องโฟกัสเลยคือ Dock ของ Nintendo Switch OLED Splatoon 3 Edition ตัวนี้ เพราะลายมันสวยงามมาก ด้านหน้าเป็นสีขาว มีลาย Splatoon สกรีน โดยเล่นสีคล้าย ๆ กับด้านหลังของเครื่อง คือเป็นสีขาวที่เข้มมากขึ้นอีกนิดนึงเกือบจะเป็นเทาแล้ว สกรีนให้เห็นถึงความสวยงาม แล้วก็มีการยิงสีเหลืองเป็นลาย ๆ ให้เป็นกิมมิค
ด้านหลังเป็นสีดำเหมือน Dock ทั่วไป แน่นอนว่ารุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ HDMI 2.0 ทำให้ต่อภาพแบบ 4K 60FPS ได้ ใครมีพวก Upscaling Box ก็ต่อกันไปใช้ได้ แต่โดยรวมแล้วยังไม่ต่างจากปกติมาก เช่นกันกับ Strap สองข้าง และ Adapter มาตรฐานที่มาแบบเดิม ๆ แต่ก็ยังใช้งานได้ดี
Splatoon 3
พูดถึงเครื่องกันเยอะแล้ว มาพูดถึงเกมกันบ้าง Splatoon ถือเป็นชื่อที่อยู่คู่กับ Nintendo มาตั้งแต่ปี 2015 ก่อนเครื่อง Nintendo Switch จะเปิดตัวเสียอีก ซึ่งก็มีมาด้วยกันทั้งหมด 2 ภาค ส่วนภาค 3 กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนในตอนแรกที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2021 หลายคนเข้าใจผิดว่ามันคือการอัปเดตใหญ่ของ Splatoon 2 ก่อนจะเซอร์ไพรส์ทุกคนว่ามันคือภาค 3 มีการออกแบบโลกหลังหายนะแบบใหม่ อาวุธใหม่ ไอเทมใหม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย และภาคนี้ยังมีโหมดเกมการเล่นใหม่ ๆ ให้ได้เล่นกันอีกเพียบ
ตัวเกมยังคงเป็นเกมยิงแบบมุมมองบุคคลที่ 3 เหมือนเดิม และ Nintendo ก็กลับมารับหน้าที่การพัฒนาเหมือนเดิมด้วย ที่สำคัญภาคนี้รองรับแบบครบเครื่องทั้งสายโซโล่ ชอบเล่นคนเดียว เพราะมีทั้งโหมดเนื้อเรื่อง และโหมด Co-op และโหมด Multiplayer เรียกได้ว่าตอบสนองแฟนเกมทุกประเภทเลยทีเดียวSplatoon 3 จะยังคงมีรูปแบบการเล่นคล้าย ๆ กันกับภาคก่อนหน้า อาวุธหลักของเรายังคงเป็นเครื่องยิงสีหมึก และยังมีอาวุธรูปแบบต่าง ๆ อีกมากมายที่ต่างกัน ทั้งอาวุธประชิด ปืนยิงระยะไกล และภาคนี้จะมีอาวุธพิเศษเพิ่มเข้ามาให้ได้ใช้งานกันด้วย
ภาคนี้ Nintendo ยืนยันว่า โหมด Regular Battle จะกลับมาเป็นโหมดหลักแบบออนไลน์อีกครั้ง หรือที่แฟน ๆ รู้จักกันในชื่อโหมด Turf War ผู้เล่น 2 จาก 4 คนจะแข่งขันกันควบคุมพื้นที่ในแผนที่ให้มากที่สุดด้วยสีหมึกของแต่ละทีม เห็นหรือยังว่าไม่ต้องใช้ปืนไล่ยิงกันจนตาย ก็สามารถออกแบบเกมให้มีความสนุกได้เหมือนกันนอกจากนั้นสิ่งที่จะกลับมาก็คือ Splatfests เป็น Challenge หรือความท้าทายรายเดือน ที่เราสามารถวางแผนล่วงหน้าในการประชันฝีมือกับอีกทีมได้ด้วย แต่ในภาคนี้จะเพิ่มเป็น 3 ทีมแทน และโหมด Co-op จะมาในชื่อ Salmon Run Next Wave
น่าสนใจไม่แพ้เครื่องเลยทีเดียวสำหรับเกม ใครที่เป็นแฟนของ Splatoon บอกไว้เลยว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่ยกระดับการเล่น และกราฟิกขึ้นมาทุกอย่าง เตรียมมันส์พร้อมกันได้เลย 9 กันยายนนี้
สรุป
สำหรับเรา Happyconsole โมเดลนี้ถือเป็นโมเดลเด็ดอีกตัวที่แฟน ๆ ต้องมี เพราะมันคือลวดลายที่จัดเต็มมาก ๆ ในรอบหลายปีด้วยกัน ถ้าใครจำกันได้ ก่อนหน้านี้ Nintendo จะชอบกั๊ก ๆ เช่น เปลี่ยนลายแค่ตรงนั้นตรงนี้ ไม่ค่อยครบ แต่ตัวนี้ถือว่ามาครบ ใครที่ยังไม่มี Switch OLED หรือมีแล้วแต่อยากได้ลายที่สวยกว่าเดิม บอกเลยว่าตัวนี้แหละครับ ตอบโจทย์จริง ๆ
Nintendo Switch (OLED model) Splatoon 3 Edition ราคา 12,590 บาท (ปกติ ฿14,990)
แผ่นเกม Splatoon 3 ราคา 1,890 บาท