Gran Turismo แฟรนไชส์เกมขับรถที่อยู่คู่กับ Sony PlayStation มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุค PlayStation 1 และแม้จะมีสปินออฟ ภาคแยกอยู่อีกมาก แต่ตอนนี้ Gran Turismo เดินทางมาถึงภาค 7 แล้ว แต่มันจะยิ่งใหญ่สมกับความเป็น Next-Gen แค่ไหน มาดูรีวิวของเรากัน สำหรับภาคนี้ยังคงได้ Polyphony กลับมารับหน้าที่ในการพัฒนา และภาคนี้ได้ตัดโหมดเนื้อเรื่องทิ้งไปเลย เหลือไว้เพียงแต่โหมด Career ที่จะให้เราไต่เต้าจากนักแข่งหน้าใหม่ไปสู่ระดับมืออาชีพ และภาคนี้จะเน้นการนำเสนอแบบเดียวกันกับที่ภาคเก่า ๆ นำเสนอแล้ว หลังจากหลายคนไม่ค่อยชอบภาค Sport เพราะไปเน้นโหมดออนไลน์มากกว่า VIDEO แต่ในภาคนี้จะเป็นการกลับมาเป็นเหมือนกับเกมภาคก่อน ๆ ที่จะเริ่มจาการที่คุณจะเริ่มด้วยเงินน้อยนิด และเริ่มต้นหารถทั่วไปมาใช้แข่งขัน จากนั้นหาเงินซื้อรถคันใหม่ หรืออัพเกรดคันเดิมให้ดียิ่งขึ้น โดยในเกมนี้จะมีรถให้คุณสะสมมากกว่า 400 คันด้วยกัน เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว และแฟน ๆ ที่ชื่นชอบรถก็น่าจะประทับใจในส่วนนี้ ไต่เต้าจากศูนย์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเกมนี้จะมีโหมดเนื้อเรื่อง ที่ไม่เหมือนเนื้อเรื่องซะทีเดียวคือ GT Cafe ส่วนนี้จะเป็นระบบใหม่ในภาคนี้ ที่จะมีภารกิจหรือ Objective ต่าง ๆ มาให้เราทำไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีหลากหลายแบบ เช่นถ่ายรูปรถคันนั้นคันนี้ ซื้อรถคันใหม่ สอบใบขับขี่ที่อาจจะต้องใช้ฝีมือ หรือที่ตึงมือเลยจริง ๆ คือการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ให้ได้อันดับที่ต้องการ ซึ่งจะต้องใช้ฝีมือกันในระดับนึง และเมื่อทำเสร็จสิ้น จะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์จริง ๆ อีกด้วย การซื้อขายรถในภาคนี้จะมีทั้งหมด 3 แบบ แบ่งเป็นรถรุ่นปัจจุบัน รถรุ่นเก่า ไปจนถึงรถรุ่นซูเปอร์คาร์ หรือรถคลาสสิคที่มีราคาสูงที่หายาก และต้องใช้ความพยายามกันหน่อยกว่าจะได้มา ซึ่งบอกเลยว่าจุดเด่นของ Gran Turismo 7 ในยุค Next-Gen บนเครื่อง PlayStation 5 ก็ทำให้โมเดล รายละเอียด รูปลักษณ์ของรถยนต์ ดูสวยงาม ละเอียด จัดเต็มสมกับที่เป็นเกม Next-Gen แบบสุด ๆ ในเมื่อมีรถเยอะขนาดนี้ สนามเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน สนามแข่งในเกมนี้จะมีเกือบร้อยสนาม และแบ่งออกเป็นสนามที่จำลองมาจากของจริง และสนามแบบจำลองที่ทีมสร้างเขาทำกันขึ้นมาเอง ส่วนของสนามนี้ก็ถือว่าจัดเต็มรายละเอียดไม่แพ้ตัวรถ รวมไปถึงหากใครยังคิดว่าสนามมันยังไม่เยอะพอ อนาคตเขาจะมีการอัพเดทเพิ่มสนามใหม่ ๆ เข้ามาให้อีกมากมาย เล่นได้ยาว ๆ เกมแข่งรถที่ “สมจริง” สุด ๆในด้านของเกมเพลย์ ก่อนอื่นให้ตัดความคิดว่ามันคือเกมจำลองแบบสมจริงไปก่อน เพราะมันไม่ได้ยากหรือท้าทายขนาดนั้น มันยังมีความง่ายกว่าหลาย ๆ เกมอยู่มาก และเราสามารถปรับแต่งความยากได้หลากหลาย ใครอยากเล่นง่ายก็ปรับง่าย อยากโหดก็ปรับให้มันยากขึ้น A.I. จะจัดหนักตามสเกลความยากที่เราปรับ รวมไปถึงระบบอย่างการเร่งความเร็วตามเราทัน ก็จะถูกตัดออกไปด้วย ถ้าคู่แข่งจะเร็วกว่าเราได้ ก็ต้องเป็นรถที่เร็วกว่าจริง ๆ แต่สำหรับคนที่เล่นไม่เก่งจริง ๆ หรือเป็นมือใหม่ ก็มีตัวช่วยหลายอย่างให้เราได้ใช้งาน ทั้งการ Auto Drift หรือเข้าโค้งอัตโนมัติ เบรคอัตโนมัติ และเผยเส้นทางการวิ่งเป็นต้น ใครที่เคยเล่น Forza Horizon มา น่าจะเคยผ่านระบบเหล่านี้มาหมดแล้ว แต่อย่าคิดว่าเปิดแล้วจะเก่งกว่าคนอื่นในโหมดออนไลน์ เพราะระบบอัตโนมัตินนั้น ดีก็จริง แต่ก็ไม่ดีเท่าเราคุมมือด้วยตัวเองแน่นอน ในภาคนี้ยังสามารถปรับแต่งรถยนต์ได้หลากหลายส่วน เอาให้เหมาะกับความชอบแต่ละคนได้ อยากให้รถเร็ว คุมยาก รถช้า คุมง่าย หรือเสถียรภาพสุด ๆ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนได้เลย สามารถจูนเองได้ทั้งหมด ขุมพลังแห่ง Next-Gen ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ที่สมกับความเป็น Next-Gen ที่มีโหมด Performance สำหรับเล่น 60FPS นิ่ง ๆ หรือใครมีทีวีจอใหญ่ ๆ อยากเสพภาพสวย ๆ ก็จัดไปกับโหมด Resolution ภาพความคมชัดระดับ 4K คมชัดสวยงามตามท้องเรื่อง และที่ขาดไม่ได้คือเกมนี้มีการแปลเป็นภาษาไทยด้วย สำหรับมาตรฐานการแปลนั้น PlayStation ยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว แต่ช่วงหลัง ๆ มา เหมือนมีคนบ่นเรื่องฟอนต์โดนบีบจากหลาย ๆ เกม ซึ่งเกมนี้วางฟอนต์ได้ดี อ่านง่าย สบายตา
“ ถือว่าเป็นสุดยอดเกมแข่งรถที่ยิ่งออกมา ก็ยิ่งดีขึ้นตามเวลา ไม่ปล่อยให้มาตรฐานตก ใครที่สนใจเกมนี้ก็ Inbox มาหาเราได้เลย ”
ราคา
PlayStation 4 - Gran Turismo 7 ราคา 1,990 บาท PlayStation 5 - Gran Turismo 7 ราคา 2,290 บาท