เวลาเราพูดถึงเกม RPG จากญี่ปุ่น (ที่มักจะเรียกกันว่า JRPG) เรามักจะนึกถึงชื่อต่าง ๆ มากมายแบบนับไม่ถ้วน ยิ่งถ้าคุณมีอายุหน่อย ๆ พอจะทันพวกเครื่อง Super Famicom เราพนันเลยว่า คุณมี JRPG ที่คุณคิดถึง และอยากให้มันกลับมากว่าร้อยชื่อ
แต่น้อยซีรีส์นักที่จะมีศักยภาพในตัวเอง จนรอดจากตลาดที่ครั้งหนึ่ง RPG คือผู้เล่นหลักมาได้ ทำให้ ณ ปัจจุบัน ในยุคที่เกมแนวอื่นกลืนกินตลาดจนแทบจะหมด เกมแนว RPG จึงเหลืออยู่ไม่กี่เกมเท่านั้น ที่ได้รับความนิยมแบบไม่เสื่อมคลาย
“Tales” เป็นอีกชื่อหนึ่งที่เอาตัวรอดมาจนถึงทุกวันนี้ จากซีรีส์ที่เริ่มต้นไม่ค่อยสวย ไม่น่าไปได้ไกล แต่มันอยู่ยาวจนออกลูกออกหลานต่อเนื่องกว่า 26 ปี ยาวนานไม่แพ้ซีรีส์อื่น ๆ เลย และล่าสุดก็มีภาคใหม่ของตัวเกมกำลังจะออก ในชื่อ Tales of Arise ภาคนี้เป็นภาคที่หลาย ๆ คนบอกว่า “จะมาเปลี่ยนเกม” หลังจากตัวซีรีส์หยุดพักไปถึง 4 ปี มาดูกันว่ามันจะน่าเล่นขนาดไหน ในพรีวิวตัวนี้
เผชิญคำโกหกแสนยิ่งใหญ่

เนื้อหาของ Tales of Arise เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงโลกสองโลกที่อยู่คู่กัน Dahna และ Rena ความสัมพันธ์ของดาวทั้งสองราวกับดอกฟ้าและหมาวัดก็ไม่ปาน ผู้อยู่อาศัยใน Dahna มองว่า Rena คือที่อยู่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ของเทพเจ้ามาโดยตลอด แต่ในความเป็นจริง ผู้คนบน Rena ต่างหลอกลวงพวกเขา เพราะต้องการนำทรัพยากรมาใช้ และปล่อยให้ Dahna ตายลงเรื่อย ๆ
เมื่อผ่านไปนานหลายร้อยปี ความจริงก็ปรากฏ ชาว Dahna รู้แล้วว่าชาว Rena ทำอะไรกับพวกเขาไว้บ้าง และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในเกม โดยเราจะรับบทเป็นกลุ่มคนที่มาจากทั้ง Dahna และ Rena เพื่อทำภารกิจบางอย่าง ที่จะเปลี่ยนโลกทั้งสองใบไปตลอดกาล
อย่างที่คุณรู้ จักรวาล Tales ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องอันยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ในภาคนี้กลุ่มผู้เล่นต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ของ “การโกหกคำโต” ที่คนรุ่นก่อนมอบให้ไว้ ฟังแล้วมันคุ้น ๆ นะอะไรแบบนี้ (ฮา) เราว่าคนไทยน่าจะอินไม่ใช่น้อยกับเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “อำนาจ” และ “คำโกหก” ที่เกมสื่อออกมา
เกมเพลย์พัฒนาอย่างชัดเจน

ถ้าใครที่เป็นแฟน ๆ Tales อยู่แล้ว จะรู้ว่าซีรีส์นี้มีความเฉพาะตัวสูง ในภาคหลัง ๆ ตัวเกมจะเริ่มออกลูกแอคชันมากขึ้น มีการกดโจมตีแยกกับสิ่งที่เรียกว่า “Arts” หรือพูดง่าย ๆ ก็สกิลของเกมอื่นนั่นแหละ ในเกมนี้มันจะอยู่ในรูปแบบของการกดคีย์ลัดแบบรวดเร็ว เช่น สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม คือคุณสามารถกดให้ Arts มันออกมาได้อย่างรวดเร็วจากปุ่มพวกนี้เลย
และในภาคนี้จะไม่ใช่ฉากการต่อสู้เล็ก ๆ อีกแล้ว เพราะเขาจำลองสเกลแบบโดมมาให้คุณต่อสู้อยู่ในนั้น คุณสามารถออกแอคชันได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด การโจมตี การกด Arts แบบรัว ๆ เสมือนว่ามันไม่มีคูลดาวน์อะไรทั้งนั้น เรียกได้ว่าอัดความมันส์มาให้สุด จนภาคที่แล้วเหมือนเป็นเกมน่าเบื่อไปเลย
พวกระบบเสริม ๆ อย่างการทำ Break หรือการทำ Core Break ก็เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่เสริมเข้ามาได้อย่างลงตัว ทำให้คุณต้องคิดมากขึ้นในการเล่น ไม่ใช่เห็นมันเป็นเกมแอคชันก็กดรัวใส่ลูกเดียว คุณต้องคอยมองด้วยว่าศัตรูมีจุดอ่อนตรงไหน รวมถึงเกมยังใส่ระบบ Dodge มาให้คุณหลบการโจมตีด้วย ถือว่าเป็นการผสานเรื่อง RPG และ Action ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวจริง ๆ
สภาพแวดล้อมระดับ Next Gen

ความโหดของ Tales of Arise คือ มันเป็นเกมระดับเน็กซ์เจน ที่มีเวอร์ชันเฉพาะ PS5 และ Xbox Series X ทำให้คุณภาพของภาพอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่า ‘สุดยอด’ เราเทียบให้ดูว่า ปกติแล้วเกมที่มีกราฟิกเป็นเซลเฉด ที่ออกการ์ตูน ๆ หน่อย จะค่อนข้างกินสเปกน้อยอยู่แล้ว เมื่อบวกกับได้คอนโซลระดับเทพเข้ามา กลายเป็นว่าดันภาพของเกมออกมาได้โดดเด่นสุด ๆ
นอกจากสภาพแวดล้อมที่ดี บรรยากาศระหว่างเล่นก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน ในแผนที่ต่าง ๆ จะมีทั้งแร่ให้คุณขุด ทรัพยากรให้คุณเก็บ และระหว่างทาง ตัวละครในปาร์ตี้ของคุณจะพูดคุยกันตลอดราวกับพวกเขาเป็นเพื่อนกันจริง ๆ (ซึ่งมันก็เป็นเพื่อนกันจริง ๆ นั่นล่ะ) ซึ่งเกม RPG ส่วนมากไม่มีให้ แถมยังมีจุดพิเศษที่เกิดขึ้นมาเพื่อให้คุณกับเพื่อนคุยเรื่องราวกันโดยเฉพาะ เช่นถ้าตรงนี้มีสระน้ำ แล้วมีคนเปิดประเด็น มันก็จะมีคนพูดต่อไม่หยุด ก็ถือว่าเป็นอะไรที่หาได้ยากในตลาดเกมตอนนี้
ราคา
PS4- Tales of Arise ราคา 1,990 บาท
PS5- Tales of Arise ราคา 1,990 บาท